ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด็อกเตอร์จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ร่วมลงนามสัญญาให้บริการติดตั้งและบำรุงรักษาอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก ระหว่างการไฟฟ้านครหลวงกับ มก. โดย ด็อกเตอร์จงรักล่าวว่า มก.ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรม ปี ค.ศ.๒๐๓๕ เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน โครงการความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยมหาวิทยาลัยลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลลงครึ่งหนึ่ง มาใช้พลังงานทางเลือก โดยมหาวิทยาลัยถือเป็นภารกิจสำคัญในการเป็นผู้นำการลดโลกร้อน โดยติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนหลังคา Solar Rooftop บนอาคารใน มก. ๘๔ ตึก ถือเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนิสิตและบุคลากรที่จะช่วยเผยแพร่แนวทางการประหยัดพลังงานดังกล่าวต่อไปนายวิลาศกล่าวว่า กฟน.จะดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนหลังคา ขนาด ๑๐.๑๔ MWp จะทำให้ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล ๑๒,๙๖๗.๙๖ MWp/ปี คิดเป็นการลดคาร์บอนไดออกไซด์ ลงประมาณ ๖,๑๘๕.๗๑ tonCo๒/ปี หรือเทียบเท่า การปลูกต้นสัก ๓๕๑,๔๖๑ ต้น ทั้งยังมีส่วนสนับสนุนให้ มก.บรรจุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วยขณะที่ ด็อกเตอร์ดำรงค์ ศรีพระราม รองอธิการบดี มก. กล่าวว่า มก.มีจำนวน ๔ วิทยาเขต มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูง ดังนั้นการใช้พลังงานทางเลือกจึงถือเป็นแนวทางที่เหมาะสม คาดว่าการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนหลังคาจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากพลังงานฟอสซิลครึ่งหนึ่ง จากที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดือนละ ๓๐ ล้าน ก็อาจจะลดลงเหลือ ๑๕ ล้าน ซึ่งช่วยมหาวิทยาลัยประหยัดงบประมาณลงไปได้มาก.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
