Monday, 18 November 2024

“วราวุธ” หนุน ถกงบฯ ๓-๕ ม.ค. ยินดี “ชัยธวัช” นั่งผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมโหวตสมรสเท่าเทียม

“วราวุธ ศิลปอาชา” ยินดี “ชัยธวัช” ประกาศตรวจสอบรัฐบาล หลังได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน หนุนสภาถกเคาะงบ ๖๗ ช่วง ๓-๕ ม.ค. หวั่นช้า กระทบการเบิกจ่าย พร้อมโหวตกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับรัฐบาล เตรียมส่งตัวแทน พม.-ชทพ. นั่งในกมธ.  วันที่ ๒๑ ธ.ค. ๒๕๖๖ ที่กระทรวงพม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ภายหลังได้เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ว่า ตนขอแสดงความยินดีกับผู้นำฝ่ายค้านคนล่าสุด ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ส่วนการแสดงจุดยืนถึงการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านให้เต็มที่ในการตรวจสอบและถ่วงดุลรัฐบาลนั้น ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะการทำงานในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องมีการทำงานทั้งของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ โดยนิติบัญญัติต้องมีทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ตนขอขอบคุณนายชัยธวัช ที่แสดงจุดยืนเพื่อเป็นประโยชน์ของการทำงานในระบอบรัฐสภาผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ผู้นำฝ่ายค้านมุ่งตรวจสอบรัฐบาล นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอบคุณมากกว่า เพราะการบริหารงานในฐานะรัฐมนตรีนั้น บางครั้งข้อมูลที่มาถึงรัฐมนตรีจากฝ่ายปฏิบัติงานอาจถูกแปลงสารหรือมาไม่ครบถ้วนบ้าง ฉะนั้น การทำงานของฝ่ายค้านจะมีช่องทางที่ได้ข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์กับรัฐบาล การให้คำแนะนำซึ่งบางครั้งอาจจะติติงรุนแรงบ้าง หรือหนักหนาบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็เข้าใจถึงเจตนารมณ์เพื่อให้ประเทศพัฒนาให้มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อถามถึงกรณีพรรคฝ่ายค้านขอเลื่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๖๗ จากวันที่ ๓-๕ ม.ค. เป็นวันที่ ๙-๑๑ ม.ค. ๖๗ นายวราวุธ กล่าวว่า ถ้าเลื่อนไป ๑ สัปดาห์ จะตรงกับช่วงวันเด็ก ซึ่งหน่วยราชการทุกหน่วยจะวุ่นวายในการจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ และงบประมาณปี ๒๕๖๗ มีความล่าช้ามากว่าครึ่งปีแล้ว ทั้งนี้ กรอบระยะเวลาเดิมคือ วันที่ ๓-๕ ม.ค. จะทำให้สามารถใช้งบประมาณได้ช่วงปลายเดือน เม.ย. หรือต้นเดือน พ.ค. ซึ่งเหลือระยะเวลาใช้งบประมาณในปี ๒๕๖๗ เพียง ๕ เดือนเท่านั้น ดังนั้น ถ้าหากล่าช้าออกไปอีก ๗ วัน แม้จะดูเหมือนไม่เยอะ แต่ก็มีความกังวลว่าจะทำให้กระทบการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงการทำงานภายใต้กรอบงบประมาณปี ๒๕๖๗ และใกล้กับช่วงการตั้งงบประมาณปี ๒๕๖๘ อย่างไรก็ตาม การพิจารณางบถ้าหากเป็นไปได้ควรจะเป็นช่วงวันที่ ๓-๕ ม.ค. เพราะมีข้อจำกัดหลายประการนายวราวุธ ยังกล่าวถึงกรณีร่าง พระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาของสภา หลังผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในฐานะที่ตนดูแลกระทรวง พม. มองว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคมให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกสถานะและทุกวัย ดังนั้น เราเห็นด้วยกับร่างฯ ของรัฐบาลในการเข้าสู่การพิจารณาของสภา พร้อมยืนยันว่าพรรค ชทพ.สนับสนุนแน่นอน และเมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ก็จะมีตัวแทนของพรรค ชทพ. และกระทรวง พม.เข้าไปร่วมด้วย