นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู เพื่อให้สอดรับกับคณะทำงานแก้ไขหนี้สินประชาชนรายใหญ่ของรัฐบาล ซึ่งคณะทำงานแก้หนี้ของนายกรัฐมนตรีได้ใช้ต้นแบบการแก้หนี้ครูหลายเรื่องมาเป็นต้นแบบแก้หนี้ให้แก่ประชาชน เช่น การหักเงินเดือนจากบัญชีครูให้เหลือร้อยละ ๓๐ เป็นต้น รวมถึงการเจรจาปรับลดดอกเบี้ยกับสถาบันการเงินต่างๆให้แก่ข้าราชการและการเจรจากับกรมส่งเสริมสหกรณ์ เนื่องจากเจ้าหนี้รายใหญ่ของครูจะอยู่กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่ไม่ได้ผูกกับเครดิตบูโร ดังนั้น ทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินอย่างธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเมื่อครูเป็นหนี้สหกรณ์ทำให้ธนาคารบางแห่งที่ครูไปกู้ยืมไม่ทราบข้อมูลว่ามีหนี้อยู่เท่าไหร่บ้างจึงทำให้ธนาคารปล่อยเงินกู้ให้แก่ครู จนเกิดปัญหาหนี้สินซ้ำซ้อนขึ้น ดังนั้นหากคณะทำงานแก้หนี้ของรัฐบาลได้ไปเจรจากับกรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อขอเข้าไปอยู่ในเครดิตบูโรด้วยก็อาจทำให้ธนาคารมีข้อมูลหนี้ของครูมากขึ้นรมช.ศึกษาธิการกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบขยายความร่วมมือกับสถาบันการเงิน ๑๐ หน่วยงานที่เคยทำไว้แล้วก่อนหน้านี้ และจะสิ้นสุดโครงการความร่วมมือภายในเดือน ธันวาคมนี้ เพื่อวางมาตรการการแก้ไขปัญหาต่างๆให้เป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นแนวทางการแก้ไขหนี้ครูกลุ่มสีแดง ๒,๐๐๐ กว่าราย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือ เรามีตัวเลขครูกลุ่มสีเหลืองที่จะกลายเป็นสีแดงหรือระดับวิกฤติเกือบหลักแสนรายจึงต้องเร่งวางแนวทางแก้ไขให้เร็วที่สุด.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่