Thursday, 19 December 2024

ญี่ปุ่นว้าวุ่น

พฤหัสบดีพรุ่งนี้ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๒๓ เวลา ๑๖.๐๐ น. มีงานพระราชทานเพลิงศพนายนิคม ประทุมชาติ อายุ ๙๔ ปี ข้าราชการบำนาญสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ณ เมรุวัดเลียบ อ.เมืองอุบลราชธานี ขอเรียนเชิญท่านที่เคารพนับถือร่วมเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์ในครั้งนี้ด้วยครับญี่ปุ่นเคยกระทำย่ำยีจีนในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ ๒ (ในสงครามโลกครั้งที่ ๒) มีการสังหารหมู่ที่นานกิงหรือหนานจิง ญี่ปุ่นข่มขืนผู้หญิงจีนอย่างโหดร้ายทารุณถึงขนาดมีคำว่า Rape of Nanking ที่เป็นทั้งการสังหารหมู่และการข่มขืนกระทำชำเรายามสงครามที่นานกิง ช่วงนั้นพลเรือนและทหารจีนถูกกองทัพญี่ปุ่นฆ่าตายไปประมาณ ๒.๕-๓ แสนคนญี่ปุ่นเป็นตัวแทนของสหรัฐฯและฝ่ายตะวันตกในการกีดกันจีน ในอนาคต ญี่ปุ่นกับจีนจึงอาจจะมีความขัดแย้งกันรุนแรงถึงขนาดพัฒนาไปเป็นสงคราม ญี่ปุ่นเล็กกว่าจีนทั้งทางด้านพื้นที่ ประชากร เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี สิ่งที่ญี่ปุ่นต้องทำคือเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสงครามที่ญี่ปุ่นด้อยกว่าทุกด้านรัฐบาลญี่ปุ่นเอาภาษีของประชาชนไปเพิ่มงบกระทรวงกลาโหม งบประมาณกระทรวงกลาโหม ค.ศ.๒๐๒๔/๒๐๒๕ ของญี่ปุ่นมีมูลค่าสูงถึง ๗.๙๕ ล้านล้านเยน เป็นเงินไทยก็ ๑.๙ ล้านล้านบาท ญี่ปุ่นลงทุนสร้างเรือรบลำใหม่ ๒ ลำ มูลค่า ๓.๗ แสนล้านเยน (๘.๙ หมื่นล้านบาท) และอีก ๗.๓๔ แสนล้านเยน (๑.๗๘ แสนล้านบาท) เพื่อยกระดับศักยภาพด้านกลาโหม และซื้อขีปนาวุธ ๗.๕ หมื่นล้านเยน (๑.๘ หมื่นล้านบาท) สำหรับการพัฒนาระบบตรวจจับขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิคบางคนอาจจะคิดว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมของญี่ปุ่นไม่เกี่ยวกับจีน แต่ถ้าผู้อ่านท่านฟังนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวถึงแผนจัดซื้อขีปนาวุธ ก็จะรู้ว่าสิ่งที่ญี่ปุ่นทำนี้ ก็เพื่อที่จะใช้ต่อกรกับจีน “การจัดซื้อขีปนาวุธที่ทัดเทียมต่อการต่อกรกับจีน และการส่งเสริมขีดความสามารถทางทหารเพื่อรักษาสมดุลของความขัดแย้ง เพื่อการโจมตีโต้กลับสถานการณ์จำเพาะ” นายกฯ คิชิดะยอมให้มีการใช้จ่ายด้านกลาโหมเพิ่มขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของการเป็นพันธมิตรกับองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตค.ศ.๑๙๔๗ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพ ญี่ปุ่นยุติการส่งออกทางทหาร แต่ผู้อ่านท่านครับ เมื่อ ๒๒ ธันวาคม ๒๐๒๓ มีการ ยืนยันว่าหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมา ค.ศ.๒๐๒๓ เป็นปีแรก ที่ญี่ปุ่นส่งออกอาวุธให้สหรัฐฯ โดยมิตซูบิชิ อินดัสตรีส์ ผลิตขีปนาวุธแพทริออทภายใต้ใบอนุญาตของล็อคฮีดมาร์ตินและอาร์ทีเอ็กซ์ ซึ่งสองบริษัทนี้เป็นคู่สัญญาด้านการป้องกันประเทศของสหรัฐฯสหรัฐฯได้รับขีปนาวุธที่ญี่ปุ่นผลิตให้แล้วก็จะเอาไปส่งต่อให้อูเครน สงครามรัสเซีย-อูเครนทำให้อาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังแสงของสหรัฐฯร่อยหรอห่อเหี่ยว จำเป็นต้องมีการผลิตเพิ่ม ญี่ปุ่นอ้างว่า การผลิตขีปนาวุธแพทริออทให้สหรัฐฯเป็นความชอบธรรม โดยอ้างการปกป้องระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างบนหลักนิติรัฐ เพื่อให้มีสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และเพื่อกระชับมิตรภาพระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯพฤติกรรมในอดีต+ปัจจุบัน ทำให้ญี่ปุ่นนอนไม่ใคร่หลับ ทุกทีที่หัวถึงหมอน ตาของญี่ปุ่นจะเบิกโพลงมองเพดาน ด้วยไม่นึกว่าจีนจะพัฒนามาได้ไกลถึงขนาดนี้ จีนประเทศเดียวไม่พอ ยังมีรัสเซียอีก โอ พระเจ้า จีนและรัสเซียรวมกันช่างน่ากลัวเหลือเกิน สิ่งที่ญี่ปุ่นพอที่ทำได้ในขณะนี้ก็คือ เจียดเงินมาเพิ่มงบกลาโหม ทั้งที่มีหนี้สาธารณะมากก็ต้องยอมทุ่ม มีนาคม ๒๐๒๓ หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นสูงถึง ๙.๒ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใครจะนึกว่าญี่ปุ่นมีหนี้มากมายถึงร้อยละ ๒๖๓ ของจีดีพีบางคนมองว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศร่ำรวย ทว่าในความเป็นจริง ญี่ปุ่นเป็นประเทศข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง มีแต่หนี้ ที่เป็นอย่างนี้เพราะญี่ปุ่นคบมหาอำนาจที่เอาแต่ได้ สหรัฐฯใช้ญี่ปุ่นทำโน่นนี่นั่น โดยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อนาคต หากเกิดสงครามขึ้นมาจริงๆ ญี่ปุ่นจะโดนขนาบโดยจีนและรัสเซีย โอ พระเจ้า ไม่อยากนึกถึงญี่ปุ่นในวันนั้นเลยจริงๆ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม