นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ ไม่ได้ออกระเบียบให้คุมขังนักโทษนอกเรือนจำ เพื่อประโยชน์ของคนเพียงคนเดียว ซึ่งหมายถึงอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ มากว่า ๑๒๐ วัน แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดของระเบียบกรมราชทัณฑ์แม้แต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรีที่ยอมรับว่านายทักษิณเข้าเกณฑ์ก็ไม่ได้เปิดเผยเนื้อความของรายละเอียดดังกล่าว เพียงแต่ยอมรับว่านายทักษิณมีสิทธิได้รับการถูกคุมตัวนอกเรือนจำ พูดง่ายๆก็คือสามารถออกไปนอนรักษาตัวที่บ้านก็ได้ และมีคนอื่นนับหมื่นคนที่มีสิทธินายสมศักดิ์อ้างว่านายทักษิณเข้าเกณฑ์ เพราะต้องโทษจำคุกต่ำกว่า ๔ ปี และไม่ได้เป็นภัยสังคม แต่ไม่ทราบว่านายสมศักดิ์ได้เห็นระเบียบตัวจริงของกรมราชทัณฑ์หรือยัง ตามปกติเมื่อมีการออกกฎหมายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระราชบัญญัติ กฎกระทรวง หรือระเบียบของหน่วยงาน ต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่จากการติดตามข่าวมาตั้งแต่ต้น ยังไม่ปรากฏว่ามีใครได้อ่านตัวจริงของระเบียบการประกาศกฎหมายในราชกิจ จานุเบกษา เป็นการแจ้งให้ประชาชนรู้ว่ารัฐออกกฎหมายอะไร เพื่อใช้บังคับกับประชาชน ประชาชนมีสิทธิที่จะรู้กฎหมายไม่ใช่ความลับในประเทศประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสังคมเปิดยิ่งกว่านั้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ยังวิจารณ์ด้วยว่าถ้าระเบียบราชทัณฑ์เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในการตีความอย่างกว้างขวาง ใครมีสิทธิหรือใครไม่มีสิทธิที่จะถูกคุมตัวนอกเรือนจำ จะทำให้บรรดานักโทษผู้ร่ำรวยวิ่งเต้นกันอย่างเอิกเกริก ทำให้ “คุกมีไว้ขังคนจน” เป็นของจริงประเทศไทยมีชื่อเสียง ในเรื่องการทุจริตทุกหย่อมหญ้า เมื่อเร็วๆนี้มีเรื่องราวขายหน้าไปทั่วโลก เมื่อชายชาวเยอรมันคนหนึ่ง นำเอาเรื่องไปเปิดโปงทางทีวีเยอรมัน อ้างว่าตัวเขารอดพ้นจากการติดคุกไทยมาได้ เพราะยอมจ่ายให้เจ้าหน้าที่รัฐนับล้านบาท หลังจากถูกจับกุมข้อหาซื้อบริการเด็กต่ำกว่า ๑๕ ปีโชคดีที่ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้ประเทศรอดพ้นจากยุคอำนาจนิยม และก้าวคืนสู่ยุคประชาธิปไตย โดยมีพรรคการเมืองที่อ้างเป็น “พรรคประชาธิปไตย” เป็นแกนนำ รัฐบาลจะต้องยึดหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด จะต้องใช้กฎหมายต่อทุกคนโดยเสมอหน้า ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือกฎหมาย และต้องไม่มีนักโทษเทวดา.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
