อากาศหนาวมาให้ชื่นใจได้ ๓-๔ วัน ไม่ทันไรคน กทม.ก็ต้องผวากับมหันตภัยฝุ่น PM๒.๕ ที่แฝงตัวอยู่ตลอดเวลาระดับฝุ่นสีส้มกลับมาพรึบเต็มแผนที่ ครอบคลุมเมืองกรุงตัวเลขอัปเดตล่าสุด เช้าวันที่ ๒๖ ธันวาคม กรุงเทพฯ ๔๙ เขต จาก ๕๐ เขต จมอยู่ในม่านหมอกฝุ่นพิษเกินระดับมาตรฐาน อันตรายต่อสุขภาพ รวมทั้งจังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร พื้นที่ปริมณฑล ลามถึงหลายจังหวัดภาคกลาง และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด โฟกัส “จุดแดง” ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง ฯลฯตามแนวโน้มสถานการณ์จะยิ่งแย่ลง PM๒.๕ รุนแรงขึ้นตามฤดูกาลที่ประเทศไทยต้องเผชิญมลพิษฝุ่นมฤตยูมาตลอดหลายปีหลัง สภาพลมนิ่ง อากาศปิด เรือนกระจกครอบ วิกฤติประจำถิ่นมาตามนัดtt ttพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณโจทย์บังคับที่รู้ล่วงหน้า ดัชนีชี้วัดศักยภาพรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง และ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติฯจะต้องทำอะไรให้ได้มากกว่าแค่เทกแอ็กชัน โชว์อีเวนต์เป็นข่าวแถมยังทำท่าจะเหมาให้เป็นเรื่องการเมือง เรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล แบบที่ค่ายพลังประชารัฐ แสดงตัวแสดงตน เป็นเจ้าภาพหลักส่งลูก รับลูก เล่นกันอยู่ในหมู่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรฯ เลขาธิการค่าย พปชร. ยังวนเวียนอยู่กับระบบโควตา ทั้งที่ปัญหาจ่อระดับโลก“วาระแห่งชาติ” ของประเทศไทยยังน้อยเกินไป เมื่อเทียบสภาพการณ์มหันตภัยฝุ่นที่เกิดจากปรากฏการณ์ “โลกเดือด” ต่อให้เทวดาผู้วิเศษก็ยังเสกไล่ PM๒.๕ ไม่ได้แต่สิ่งที่ทำได้ มันคือการทำให้ประชาชนอุ่นใจ ไม่ถูกปล่อยให้เผชิญตามยถากรรม รับสภาพปัญหาแบบอาการไข้ เป็นแล้วก็หายไปเอง ปล่อยให้ตัวการก่อ “มะเร็งปอด” คุกคามคนไทยเรื่องของเรื่องมี “แบบฝึกหัด” เป็นตัวอย่างมาแล้วกับแนวทางปฏิบัติ ในยุครัฐบาลของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ที่มี “เดอะท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา เป็น รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติฯอย่างน้อยย้อนกลับไปเปิดพิมพ์เขียว ศึกษาแผนการบริหารจัดการแผนเผชิญเหตุเฉพาะหน้า เปิดยุทธการรบกับฝุ่นพิษอย่างจริงๆจังๆผ่อนหนักให้เป็นเบา บรรเทาความเดือดร้อนด้วยมาตรการเด็ดขาด เช่น รณรงค์ให้เวิร์ก ฟรอม โฮม สั่งรถบรรทุกห้ามวิ่งเข้าเขตเมืองชั่วคราว ตั้งด่านสกัดจับรถควันดำ สั่งให้แก้ไขก่อนถึงจะอนุญาตให้ใช้งานต่อ ขอให้โครงการก่อสร้างของเอกชนรวมไปถึงเมกะโปรเจกต์ของรัฐ คลุมผ้าป้องกันหรือหยุดก่อสร้างช่วงฝุ่นวิกฤติ ฯลฯtt ttพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา“ลุงตู่” ที่เคยโดนด่าทำอะไรไม่เป็น ทำให้ดูให้เห็นมาแล้วโจทย์สถานการณ์กดดัน นายเศรษฐา ต้องไม่ปล่อยให้ฝุ่นเข้าตาประชาชน โดยเฉพาะคนชั้นกลางที่เสียงดัง หงุดหงิดง่าย อันตรายกับสุขภาพรัฐบาลในสภาพ “ต้นทุน” ฝ่ายบริหารยังตีไม่ขึ้น จากสูตรอำนาจพิสดารตามสัญญาณที่ประเมินได้จากอารมณ์ “สื่อมืออาชีพ” นักข่าวทำเนียบรัฐบาลเปิดฉายารัฐบาลประจำปี ๒๕๖๖ รัฐบาลแกงส้ม “ผลัก” รวม สะท้อนกระแสสังคมที่มองพรรคก้าวไกลถูกกลั่นแกล้ง เอ็มโอยูถูกฉีก ถูกผลักออกจากการร่วมรัฐบาลด้วยเงื่อนไขทางกฎหมายและข้ออ้างทางการเมือง ทำให้ส้มหล่นใส่พรรคเพื่อไทย อันดับรองกลืนน้ำลายจัดตั้งรัฐบาล “มีลุง” ไม่เป็นไรเฉพาะตัวของนายเศรษฐาเอง ได้ฉายา เซลล์แมนสแตนด์ “ชิน” ตามที่ประกาศตัวเองเป็น “เซลล์แมนประเทศไทย” เดินสายไปโรดโชว์จีบนักลงทุนทั่วโลกแต่ในทางการเมืองยังถูกมองว่า ไม่ใช่นายกฯตัวจริงถูกเงาของคนในตระกูล “ชินวัตร” ปกคลุม เปรียบเสมือนตัวแสดงแทน หรือสแตนด์อิน และเคยหลุดปากขณะออกงานพร้อม “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของ “นายใหญ่” แคนดิเดตนายกฯ อันดับหนึ่งพรรคเพื่อไทย“นายกฯคนไหน มีนายกฯ ๒ คน”บนพื้นฐานที่สื่อมวลชนสายทำเนียบฯ แปลงเป็น “กระจกการเมืองบานใหญ่” สะท้อนอารมณ์สังคมแบบตรงไปตรงมาคนชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” จึงมีภาระบนบ่าต้องแบกหนักอึ้งเลย.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
