Saturday, 9 November 2024

รัฐบาล ตั้งวอร์รูม เตรียมข้อมูล แจงงบฯ ปี ๖๗ แบ่ง ๘ หมวด ยัน ไม่อวยอย่างเดียว

วิปรัฐบาล เผย รัฐบาล ตั้งวอร์รูม เตรียมข้อมูล แจงงบฯ ปี ๖๗ ด้าน “สรวงศ์” เลขาฯ เพื่อไทย บอก พรรค แบ่ง ๘ หมวดอภิปรายงบฯ ยัน ไม่จ้องอวยอย่างเดียว ขอมองภาพรวมอย่าพุ่งที่ตัวบุคคล ยัน นิรโทษกรรม ไม่ใช่ช่วยเฉพาะ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”วันที่ ๒๙ ธ.ค. ๒๕๖๖ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ว่า วันที่ ๒๘ ธ.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้เรียกตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลหารือถึงการเตรียมความพร้อมในการพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ ที่จะมีขึ้นวันที่ ๓-๕ ม.ค. ๖๗ ทั้งในส่วนของสมาชิกที่กำชับให้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ความพร้อมของข้อมูลความจำเป็นลำดับความสำคัญของงบประมาณแต่ละกระทรวงที่ถูกบรรจุในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ นอกจากข้าราชการประจำที่จะเตรียมข้อมูลแล้ว ก็ได้ขอให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลแต่ละกระทรวง ได้ทำความเข้าใจในเนื้องานอย่างถ่องแท้ เพื่อให้สามารถชี้แจงให้สมาชิกและประชาชนที่ติดตามการพิจารณาได้รับข้อมูลในทุกมิติถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับนอกจากนี้ ทางรัฐบาลยังจะเตรียมพร้อมในการรวมรวมข้อมูลแก้ สส.ที่จะอภิปรายโดยให้แต่ละกระทรวงตั้งวอร์รูม เตรียมข้อมูลสำหรับการชี้แจ้งประเด็นที่ฝ่ายค้านสงสัย พร้อมกันนี้ก็จะให้วอร์รูมดังกล่าวสนับสนุนข้อมูลให้กับ สส.ฝ่ายรัฐบาลเพื่อใช้อภิปรายในสภาฯ เพื่อที่จะได้ช่วยรัฐบาลในการชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นในการใช้งบประมาณปี ๖๗ ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่าสงมากที่สุด ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ในการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ ว่า ในการประชุมวิป ๓ ฝ่าย คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลได้เวลาอภิปราย ๒๐ ชั่วโมง ฝ่ายค้านได้เวลา ๒๐ ชั่วโมง ประธานในที่ประชุมได้เวลา ๓ ชั่วโมง โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะได้เวลาประมาณ ๗ ชั่วโมง ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องแบ่งกับพรรคอื่นๆ ด้วย ซึ่งเราได้ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ ๒๖ ธ.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างนี้สมาชิกก็อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดเพื่อใช้ในการอภิปราย และแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันในการเตรียมความพร้อมโดยเราแบ่งหมวดหมู่อภิปรายเป็น ๘ หมวดหมู่ใหญ่ๆ อาทิ ด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ด้านการสร้างความเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีสมาชิกร่วมลงชื่ออภิปรายกันจำนวนมาแล้ว โดยแนวทางการอภิปรายของพรรคเพื่อไทยจะไม่ใช่การอวยรัฐบาลอย่างเดียว เพราะการพิจารณาครั้งนี้เป็นวาระที่ ๑ หากมีข้อสงสัยอะไรทางพรรคจะเสนอแนะแนวทางที่ควรจะเป็นไปยังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณฯ เพื่อให้เกิดเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดเมื่อถามว่า หากฝ่ายค้านมุ่งโจมตีรัฐบาล ทางพรรคจำเป็นต้องตั้งทีมขึ้นมาปกป้อง หรือไม่ นายสรวงศ์ ตอบว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งทีมมาปกป้องรัฐบาล หากฝ่ายค้านอภิปรายในกรอบการพิจารณางบประมาณเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการชี้แจง แต่ถ้าอภิปรายนอกเหนือกรอบการพิจารณาเป็นการโจมตีตีกินเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองเราก็ต้องลุกขึ้นชี้แจงเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปตามกรอบ นายสรวงศ์ ยังให้สัมภาษณ์กรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ออกมาระบุจำเป็นต้องคุยกันเรื่องนิรโทษกรรมให้เป็นธรรม ไม่ใช่คิดแค่ช่วยนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า จริงๆ แล้วเราไม่อยากให้ระบุไปที่ตัวบุคคล กฎหมายทุกอย่างเป็นไปตามระบบคนที่ได้ประโยชน์คือคนจำนวนมาก ขออย่ามองที่ตัวบุคคล เช่นเรื่องระเบียบราชทัณฑ์ที่ว่าด้วยการกักขังนอกเรือนจำ แน่นอนต้องมีคนได้ประโยชน์และไม่ได้ประโยชน์ ตนอยากให้ทุกคนมองในภาพรวม ที่สำคัญกฎหมายดังกล่าวออกมาในช่วงรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยที่เป็นฝ่ายค้านในยุคนั้นไม่ใช่เป็นคนผลักดันกฎหมายดังกล่าวเลย ตนจึงอยากให้มองไปที่บุคคลและครอบครัวที่จะได้ประโยชน์จากกฎหมายที่ออกมาเป็นหมื่นคนมากกว่าการมุ่งมาที่คนสองคน เพราะพอมามุ่งประเด็นเช่นนี้จะกระทบกับคนอื่นๆ ที่จะได้รับประโยชน์ ยอมรับว่าทางการเมืองโจมตีกันได้แต่อยากให้มองที่ภาพรวมมากกว่า และเรื่องนี้หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการตามกฎหมายที่ออกมาก็จะเข้าข่ายความผิดทางอาญามาตรา ๑๕๗ ด้วย ดังนั้นขออย่ามองที่ตัวบุคคลขอให้มองที่ภาพรวม