คนร้ายบุกฆ่าโหด ๒ พนักงานปั๊มไทยที่นครพนม หญิงวัย ๕๐ ปี ถูกจ่อยิงศีรษะ ส่วนอีกคนเป็นหนุ่มชาวลาว ถูกของมีคมฟันจนศีรษะเปิดตายคาที่ ถอดปลั๊กเซิร์ฟเวอร์ระบบบันทึกภาพกล้องวงจรปิด ทรัพย์สินยังอยู่ครบ เชื่อมีการวางแผนมาล่วงหน้าเวลา ๒๒.๓๐ น. วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ ร.ต.อ.พิชานน ปลื้มสุด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่ปั๊มน้ำมันไทยแหลมทอง บ้านผึ้ง หมู่ ๑ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม ติดริมถนน ทล.๒๒ สาย นครพนม-สกลนคร ฝั่งขาออกไป จ.สกลนคร จึงรายงานต่อ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เตชะเรืองศิลป์ ผกก. ไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม กู้ภัยศรีสัตตนครพนม และรถกู้ชีพ อบต.บ้านผึ้งที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ๒ ราย บริเวณหน้าออฟฟิศ และที่พักพนักงานในปั๊ม รายแรกทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายพมจัก สีสุพา หรือเซล อายุ ๓๓ ปี พนักงานปั๊ม ชาวลาวแขวงบริคำไชย สปป.ลาว สภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้น มีบาดแผลคล้ายถูกของมีคม หรือถูกยิงที่ศีรษะ กะโหลกเปิดครึ่งหัว สมองกระจาย นอนตะแคงซ้าย อีกศพชื่อ นางสาววิชุดา ศรีสุมังค์ หรือนัน อายุ ๕๐ ปี ชาวบ้านดอนม่วง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแบบสวมสีขาว ลักษณะขายังคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ๑ กจ ๘๒๔๒ นครพนม สภาพศพถูกยิงบริเวณท้ายทอย ทะลุใบหน้า สมองกระจายจากการตรวจในพื้นที่เกิดเหตุ ยังไม่พบปลอกกระสุน หรือหลักฐานที่จะเชื่อมโยงหาเบาะแสติดตามจับกุมตัวคนร้าย ส่วนกล้องวงจรปิดภายในปั๊มทั้งหมด ๑๓ ตัว ถูกถอดปลั๊กระบบเซิร์ฟเวอร์ควบคุมการบันทึกภาพออก ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบเก็บหลักฐาน พร้อมส่งศพผู้เสียชีวิต ไปชันสูตร เก็บหลักฐาน อย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ทราบว่าปกติปั๊มน้ำมันดังกล่าว จะเปิดบริการ ช่วง ตี ๕–๒๑.๐๐ น. ของทุกวัน มีพนักงาน ๔ คน แบ่งเป็นกะละ ๒ คน ส่วนวันนี้ผู้เสียชีวิตทั้ง ๒ เป็นกะช่วงที่สอง เชื่อว่ากำลังจะเตรียมกลับบ้านหลังปิดปั๊ม จากนั้นมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต จากการตรวจสภาพศพเชื่อว่า คนร้ายน่าจะมีการมาพูดคุยก่อนลงมือ และเลือกช่วงเวลาปลอดคนปิดปั๊มแล้ว รวมถึงปั๊มอยู่ห่างจากชุมชน และเป็นที่เปลี่ยวทำให้ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ อีกทั้งน่าจะมีการเตรียมวางแผนมาก่อน เพราะถอดปลั๊กระบบกล้องวงจรปิดออก และยังไม่มีหลักฐานปลอกกระสุนหรือหลักฐานสำคัญตกในที่เกิดเหตุด้วย เบื้องต้นมุ่งปมชู้สาว รวมถึงขัดแย้งธุรกิจผิดกฎหมาย ส่วนชิงทรัพย์เชื่อว่ามีโอกาสเป็นไปได้ยาก เพราะทรัพย์สินเงินสดยังอยู่ครบ ซึ่งตำรวจจะเร่งสอบสวน รวบรวมหลักฐานผลชันสูตร รวมถึงนำอุปกรณ์จากกล้องวงจรปิด ไปตรวจสอบอีกครั้งด้าน นายชาตรี หม่อมบ่าว อายุ ๖๑ ปี เจ้าของปั๊มน้ำมัน กล่าวว่า ปั๊มแห่งนี้เปิดมา ๔ ปี มีลูกจ้าง ๔ คนมี คนไทยเป็นหญิง ๓ คนรวมกับ นางสาวนัน ผู้ตาย ทำงาน ๒ กะ กะละ ๒ คน เปิดปั๊มตอน ๐๕.๐๐ น. ปิดบริการ ๒๑.๐๐ น. ทุกวัน โดยนายพมจัก หรือเซล ผู้ตาย กะช่วงเย็นคือบ่ายสามโมงถึงค่ำ มาทำงานกับตนได้ปีกว่า ไม่มีครอบครัว ช่วงกลางวันจะให้ลูกชายหรือภรรยามาเก็บเงินกะละประมาณ ๓๐,๐๐๐–๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนกะค่ำนายพมจัก หรือเซล จะเก็บเงินให้ครั้งละประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบ ยืนยันไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใคร และพนักงานไม่เคยมีเรื่องกับใคร ต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนโดยละเอียดเสียก่อน โดยในส่วนของ นางสาววิชุดา ศรีสุมังค์ หรือนัน อายุ ๕๐ ปี เคยมีครอบครัวแต่หย่าร้าง เกือบ ๒๐ ปี จึงไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะไม่เคยมีปัญหามาก่อนในการทำงานของพนักงาน ส่วนทรัพย์สินเงินสด ตรวจสอบยังอยู่ครบขณะที่ญาติ น.ส.วิชุดา หรือนัน ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ตายได้หย่าร้างกับสามีมานานกว่า ๒๐ ปี มีบุตร ๑ คน มีครอบครัวแล้ว ปกติหลังเลิกงานจะกลับไปนอนที่บ้านทุกวัน จนกระทั่งวันนี้มีคนโทรไปบอกว่าถูกยิงตาย จึงเดินทางมาดู ถึงกับช็อก ยังคิดไม่ออกว่ามาจากสาเหตุอะไร เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนที่จะมาเกิดเหตุร้ายแรงถึงขนาดนี้
