วันสุดท้ายของปี ๒๕๖๖ เวียนมาถึงแล้ววันนี้…นั่นหมายถึงว่าปีเก่า ๒๕๖๖ กำลังจะจากไปและปีใหม่ ๒๕๖๗ กำลังจะคืบคลานมาแทนที่ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าได้เวลา “คอลัมน์แห่งปี” (เพราะพบกันปีละครั้ง) “จากใจไทยรัฐ” ในนามของพวกเรา ไทยรัฐ กรุ๊ป กลับมาจับเข่าปรับทุกข์ผูกมิตรเปิดอกเปิดใจ คุยกับท่านผู้อ่านท่านผู้ชมและท่านผู้ฟังทั่วประเทศของเราอีกคราท่านผู้อ่านที่เคารพย้อนหลังกลับไปสู่ปี ๒๕๖๖ ที่กำลังจะผ่านพ้นคงต้องยอมรับอย่างปฏิเสธมิได้ว่า เป็นปีที่น่าผิดหวังอยู่ไม่น้อยสำหรับพี่น้องชาวไทย ที่เคยฝากความหวังไว้กับปีกระต่ายน้อยค่อนข้างสูงทั้งในแง่ เศรษฐกิจ ในแง่ สังคม และ การเมือง ๓ ประเด็นหลักที่สำคัญยิ่งของประเทศไทยเราในแง่ เศรษฐกิจ เราหวังกันว่าปีกระต่ายน้อยจะเป็นปีแห่งการฟื้นตัวและเจริญเติบโตในระดับหนึ่งเหตุเพราะในช่วงปลายปี ๒๕๖๕ ก่อนเข้าสู่ปี ๒๕๖๖ โควิด-๑๙ เริ่มคลี่คลาย ซึ่งประเทศไทยของเราก็ตัดสินใจเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบทันทีทันควันและก็ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างมากมายมหาศาลแต่แล้วถ้อยแถลงของสภาพัฒน์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายๆฝ่าย “ช็อก” ไปพักใหญ่ๆ เมื่อการเจริญเติบโตของ ๙ เดือนแรกอยู่ที่ ๑.๙ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และเมื่อรวมทั้งปีแล้วอาจขยายได้เพียง ๒.๕ เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่า ๒.๖ เปอร์เซ็นต์ในปีก่อนหน้าเสียด้วยซ้ำไปแต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของการท่องเที่ยวเพราะโดยรวมแล้วยังไปได้สวย ขาดเพียงนักท่องเที่ยวจีนที่ต่ำกว่าเป้าไปบ้าง นอกเหนือจากนั้นกลับทะลุเป้าที่ตั้งไว้พอสมควรปัญหาหลักของเศรษฐกิจไทยกลับไปอยู่ที่ การส่งออก ที่ลดฮวบอย่างน่าหวาดหวั่น และการลงทุน ภาครัฐที่ชะลอตัวลงอย่างผิดสังเกต โดยเฉพาะประการหลังเป็นผลมาจากการเลือกตั้งทั่วไปเดือนพฤษภาคมที่เราได้ รัฐบาลใหม่ มาช้าเกินไป จนจัดทำงบประมาณสำหรับปี ๒๕๖๗ ไม่ทันออกใช้ในเดือนตุลาคมแต่ก็นั่นแหละไม่ว่าการเติบโตที่ต้วมเตี้ยมของเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๖ จะมาจากเหตุผลใดก็ตาม…ย่อมทำให้พี่น้องชาวไทยซึ่งคาดหวังไว้มากรู้สึกผิดหวัง และมองว่า “ปีกระต่ายน้อย” มิใช่กระต่ายที่ปราดเปรียว หรือสดใสอย่างที่คิดไว้เสียแล้วท่านผู้อ่านที่เคารพเมื่อมองในแง่สังคมจากรายงานของสภาพัฒน์เช่นกัน แสดงว่าปัญหาด้านสังคมของประเทศไทยในปีที่ผ่านมายังคงน่าห่วงใยอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะในด้านปัญหายาเสพติดก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ และยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลายลง ข่าวการจับกุมผู้ขนและค้ายาเสพติดด้วยปริมาณและมูลค่าที่สูงอย่างน่าตระหนก ยังคงเป็นข่าวใหญ่ของสื่อมวลชนต่างๆตลอดทั้งปีที่แล้วนับเป็นปัญหาสังคมที่น่าห่วงใยที่สุด ที่รัฐบาลใหม่จะต้องจัดการอย่างเฉียบขาดต่อไปท่านผู้อ่านที่เคารพครั้นเมื่อมองในแง่ประเด็น ด้านการเมือง ก็ปรากฏว่า ปี ๒๕๖๖ นับเป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่งเมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปี ๒๕๖๖ แล้วได้รัฐบาลใหม่มาแทนรัฐบาลเดิมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาแม้จะมีการตั้งข้อสังเกตอยู่บ้างว่าพรรคที่ได้ที่นั่ง สส.สูงสุด กลับไม่ได้เป็นรัฐบาลบริหารประเทศ แสดงว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนแต่ก็มีการโต้แย้งอย่างมีเหตุผลว่า ในระบอบประชาธิปไตยทั่วไปของโลกนี้ ไม่มีการการันตีว่าพรรคที่ได้ สส.เป็นอันดับ ๑ แต่ไม่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง แล้วจะต้องได้เป็นรัฐบาลเสมอไป ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองและความสามารถในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคที่ได้คะแนนนำนั้นๆเสียมากกว่าจุดดีของการได้พรรคเพื่อไทย มาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็คือ พรรคนี้เป็นพรรคที่มีความยึดมั่นและเทิดทูนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเหนียวแน่นการได้พรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำรัฐบาลจึงเป็นการการันตีได้ว่า ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจะอยู่เคียงคู่กับประเทศไทยตลอดไปแต่จุดอ่อนของพรรคเพื่อไทยก็มีอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นพรรคเก่าแก่เคยบริหารประเทศมาหลายยุคหลายสมัย จึงมีทั้ง “คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ” มีทั้งมิตรและศัตรูกระจายอยู่ทั่วประเทศจึงมีทั้งเสียงค้านเสียงต่อต้านดังขึ้นอยู่เสมอ และอาจจะดังต่อไปอีกจากเงื่อนไขและประเด็นทางการเมือง ที่อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่กลับมารับโทษในประเทศไทยกำลัง “สร้างขึ้น”“จากใจไทยรัฐ” หวังเพียงว่าเหตุการณ์จะคลี่คลายไปในทางดี เมื่อมีการยอมรับและเคารพกฎกติกาหรือกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัดมองจากมุมของการเมือง แม้ปีกระต่ายจะไม่ได้ตัวนายกฯที่บางฝ่ายคาดไว้…แต่การได้นาย เศรษฐา ทวีสิน มาเป็นนายกฯ อาจมีอะไรที่ท้าทายที่น่าติดตามและน่าจะเป็นสีสันของการเมืองใหม่ที่น่าลุ้นต่อไปในอนาคตท่านผู้อ่านที่เคารพเราขอมองจากมุมปัญหาของโลกหรือเหตุการณ์ในต่างประเทศอย่างกว้างๆและย่อๆสักเล็กน้อย เพื่อให้การวิเคราะห์ครบถ้วนก็คงต้องบอกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่นิ่ง และการถดถอยลงของยักษ์ใหญ่อย่างจีน ล้วนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ และย่อมมีผลมาถึงประเทศไทยของเราด้วยอย่างมีนัยสำคัญเช่นกันในปี ๒๕๖๖นักท่องเที่ยวจีนที่มาเมืองไทยแบบหลุดเป้าแท้ที่จริงแล้วมาจากปัญหาการตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ทำให้คนชั้นกลางของจีนรายได้หดลงจนต้องงดเดินทางไปต่างประเทศนั่นเองขณะเดียวกัน ภาวะสงครามเก่าระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังไม่สิ้นสุดและเกิดภาวะสงครามใหม่ ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสที่ฉนวนกาซามีส่วนทำให้เศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อไปท่านผู้อ่านที่เคารพแม้ปีกระต่ายน้อยจะไม่ทำให้คนไทยสมหวังแต่วิเคราะห์ลึกๆ ก็มิได้ทำให้ประเทศไทยเสียหายจนเกินไปนักยังมีแง่มุมที่ดีและสิ่งดีๆที่สามารถสานต่อได้และบังเกิดผลดีในปี ๒๕๖๗ หรือปีมะโรงงูใหญ่ที่พี่น้องชาวจีนให้ฉายาว่าปีมังกรทองไม่มากก็น้อยเราเชื่อว่าหลายๆสิ่ง หลายๆอย่าง โดยเฉพาะเศรษฐกิจโลก น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จากความสำเร็จในการแก้ปัญหาของสหรัฐอเมริกาในปีที่ผ่านมา และเชื่อว่ายักษ์ใหญ่อื่นๆก็จะค่อยๆ กระเตื้องขึ้นเช่นกันหากภาวะสงครามและการขัดแย้งของโลกไม่บานปลายมากนัก ก็เป็นที่หวังได้ว่าปีมะโรงงูใหญ่จะเป็น “ปีมังกรทอง” โดยแท้จริงท่านผู้อ่านที่เคารพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอยู่คู่ประเทศไทยมาแล้ว ๗๔ ปี นั่นแปลว่า เราได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอดเราขอให้สัญญาว่าจะทำหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ดี อันหมายถึงการเป็นสื่อเพื่อประชาชนเพื่อสังคมและเพื่อการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไปอย่างเหนียวแน่นตามปณิธานและตามความมุ่งมั่นตลอดจนจิตวิญญาณของการทำหน้าที่สื่อมวลชนขนานแท้ ที่มีท่าน ผู้อำนวยการกำพล วัชรพล บุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษาและสื่อสารมวลชน พ.ศ.๒๕๖๒ เป็นต้นแบบของพวกเราเราขอยืนยันอีกครั้งว่า…ไม่ว่าปีหน้าฟ้าใหม่จะเป็นอย่างไร? พวกเราไทยรัฐ กรุ๊ป พร้อมจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านทั้งหลายในทุกโอกาส ไม่ว่าจะ “ทุกข์” หรือ “สุข” ก็ตามในปี ๒๕๖๗ ที่จะมาถึงสวัสดีปีใหม่ “จากใจ” ของชาวไทยรัฐทุกคน!อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
