วันที่ ๓๑ ธ.ค. ๖๖ พระครูรัตนธรรมานันท์ อายุ ๖๐ ปี เจ้าอาวาสวัดคอออม ตั้งอยู่ริมถนนสายชุมพร-ระนอง ใกล้สี่แยกปฐมพร หมู่ ๙ ตำบลวังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร แจ้งเตือนภัยผ่านผู้สื่อข่าว หลังถูกคนร้ายย่องเข้ามาลักทรัพย์เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่หายากจำนวนหลายองค์ภายในอุโบสถ เพื่อนำเสนอข่าวเตือนภัยไปยังวัดอื่นๆ ให้ทราบและระวังคนร้ายที่จะถือโอกาสเข้ามาลักทรัพย์ภายในวัดโดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ พระสนองศักดิ์ อายุ ๖๔ ปี พระสงฆ์ลูกวัด ได้เข้าไปดูภายในอุโบสถหลังเก่า ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับอุโบสถหลังใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบว่าบนโต๊ะหมู่หน้าพระประธาน มีร่องรอยถูกคนร้ายยกพระพุทธรูปปางต่างๆ ไป โดยสังเกตจากคราบฝุ่นที่เป็นรอยรอบรูปฐานที่ตั้งวางพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชา ที่คนร้ายย่องลักเอาไป พระสนองศักดิ์ เล่าให้ฟังว่าเมื่อเวลาประมาณ ๘-๙ โมง ของวันที่ ๓๐ ธ.ค. ๖๖ ที่ผ่านมา หลังทำวัตรเช้าเสร็จ ได้ไขประตูอุโบสถเข้ามาทำความสะอาด และจัดเตรียมปูอาสนะพระสงฆ์ จัดธูปเทียน เพราะในวันดังกล่าวจะมีการบวชนาค ขณะนั้นเห็นพระพุทธรูปยังวางอยู่ปกติยังไม่หาย หลังจากจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เสร็จก็ปิดประตู แล้วออกจากวัดไปงานกิจนิมนต์ที่บ้านญาติโยมในพื้นที่ tt ttหลังจากนั้น ตนกลับมาจากกิจนิมนต์ เห็นว่าบริเวณรอบๆ อุโบสถมีขยะและใบไม้เยอะ จึงเอาไม้กวาดมากวาด โดยไขกุญแจประตูอุโบสถทิ้งไว้แต่ไม่ได้เปิดอ้า เพราะคิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวจะมีนาคมาบวช ทำความสะอาดเสร็จก็กลับไปที่กุฏิ กระทั่งย้อนกลับมาที่อุโบสถตอนนาคและญาติโยมกำลังเตรียมจะเข้าอุโบสถแล้ว และรู้ว่าพระพุทธรูปหายตอนที่เจ้าอาวาสเข้ามาบอกด้านพระครูรัตนธรรมานันท์ เจ้าอาวาส กล่าวว่าพระพุทธรูปที่หายไปทั้งหมดจำนวน ๑๗ องค์ เป็นพระพุทธหินหยกดำแม่น้ำโขง ปางพระทานพุทธมณฑล สูง ๑๒ นิ้ว จำนวน ๖ องค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย เนื้อหิน เนื้อหยก จำนวน ๖ องค์ พระพุทธรูปหยกเขียวหน้าตัก ๕ นิ้ว ๑ องค์ พระพุทธรูปหยกขาวหน้าตัก ๗ นิ้ว ๑ องค์ พระพุทธรูปหยกขาวศิลปะพม่าหน้าตัก ๕ นิ้ว ๑ องค์ พระพุทธรูปทองเหลืองศิลปะเชียงแสนปางนั่งสมาธิ หน้าตัก ๙ นิ้ว จำนวน ๒ องค์ รวมพระที่หายไปทั้งหมด ๑๗ องค์ เจ้าอาวาสวัดคอออม บอกด้วยว่าก่อนที่จะรู้ว่าพระพุทธรูปหายไปช่วงเวลา ๑๑.๒๐ น. ตอนนั้นญาติโยมกำลังทำพิธีแห่นาคเวียนรอบอุโบสถ ส่วนตนเข้าไปในอุโบสถ ขณะนั้นยังไม่มีใครอยู่ในอุโบสถ ซึ่งประตูหลังทางทิศตะวันตกกับทิศใต้เปิดไว้ เมื่อเข้าไปในอุโบสถก็พบว่าพระพุทธรูปหายไปแล้ว โดยก่อนจะมีพิธีบวชนาคตอนกลับมาจากทำกิจนิมนต์นอกวัด สังเกตเห็นมีรถซาเล้งจอดอยู่ ๑ คัน บริเวณหน้าเจดีย์ใกล้อุโบสถ แต่ก็คิดว่าเป็นญาติโยมที่มาวัด ไม่ได้สงสัยอะไร ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ ซึ่งปัญหาการลักขโมยพระไม่มีมานานแล้ว หลังจากเมื่อ ๑๐ กว่าปีก่อน เคยถูกคนร้ายเข้าไปลักพระพุทธรูปในศาลาโรงฉัน“ครั้งนี้ที่คนร้ายขโมยไปเป็นพระพุทธรูปหินหยกดำแม่น้ำโขง พระพุทธรูปหยกเขียว พระพุทธรูปหยกขาว ทุกองค์เป็นพระที่แกะสลักด้วยมือ ซึ่งแต่ละปางที่แกะสลักด้วยมือจะถือว่ามีเพียงองค์เดียวในประเทศไทยและในโลกเท่านั้น ไม่เหมือนกับพระพุทธรูปทองเหลืองที่สามารถหล่อทำซ้ำได้หลายๆ องค์ จึงประเมินมูลค่าไม่ได้ ดังนั้นจึงเตือนไปยังวัดอื่นๆ ให้ระวังมิจฉาชีพพวกนี้ไว้” เจ้าอาวาสกล่าว
