Thursday, 19 December 2024

“ฐากร” ชี้ รัฐให้ความสำคัญการพัฒนาวัตถุ มากกว่าคน จัดงบ ๓ ขาด ๓ เกิน

“ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เผย รัฐบาลจัดงบปี ๖๗ แบบ “๓ ขาด ๓ เกิน ๑ พอได้” ให้ความสำคัญการพัฒนาวัตถุ มากกว่าการดูแลทรัพยากรบุคคล และการศึกษาของชาติ หวั่นเพิ่มความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส ทำให้สังคมแตกต่างมากขึ้นวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๒.๓๕ น. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย อภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ โดยชี้ให้เห็นว่า กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การทำให้งบประมาณมีประสิทธิภาพสูงสุดคือ การจัดเรียงลำดับแผนยุทธศาสตร์ โครงการให้เป็นไปตามความจำเป็นเร่งด่วนโดยเห็นว่างบลงทุนปี ๒๕๖๗ อาจยังไม่เพียงพอที่จะนำไปสู่การพัฒนาคนการพัฒนาประเทศ พร้อมสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า งบลงทุนใหม่ที่รัฐบาลได้จัดในปี ๒๕๖๗ นั้นแท้จริงแล้วเท่าใด บางส่วนเกิดขึ้นต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้วหรือไม่ เพื่อนำมาพิจารณาว่าในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจะสามารถขับเคลื่อนนโยบายได้จริงหรือไม่ นายฐากร ชี้ให้เห็นด้วยว่างบรัฐบาลจัดงบในปี ๒๕๖๗ เป็น “งบแบบ ๓ ขาด” เพราะรัฐไม่ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนใหม่ เช่น งบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่จะนำมาดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแบบเต็มขั้น โดยเป็นงบประมาณรวมกว่า ๒๕,๐๐๐ ล้านบาท แต่พบว่าเป็นงบลงทุนเพียง ๑,๙๐๐ ล้านบาทเท่านั้น หรือเพียง ๗.๗๙% เท่านั้น เช่นเดียวกับ กระทรวงศึกษาธิการ งบประมาณรวมกว่า ๓๒๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่พบว่าเป็นงบลงทุนเพียงกว่า ๑๓,๐๐๐ ล้านบาทเท่านั้น หรือคิดเป็น ๔.๑๒% ทั้งที่เราควรมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาของประเทศไทยให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะผลการทดสอบคะแนน PISA ของไทยที่ตกต่ำลงมาต่อเนื่องจนอยู่ในระดับท้ายๆ ของอาเซียนและอีกหนึ่งขาด คือ กระทรวงสาธารณสุข งบประมาณรวมกว่า ๑๖๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่เป็นงบลงทุนเพียงกว่า ๑๓,๐๐๐ ล้านบาท หรือ ๘.๔๓ เท่านั้น ขณะที่บางกระทรวงที่สำคัญต่อการพัฒนาคนได้งบประมาณลงทุนน้อยนิด แต่กลับมีบางกระทรวงที่ได้งบ “ส่วนเกิน ๓ เกิน” ประกอบด้วยงบของกระทรวงคมนาคม พบว่าเป็นงบลงทุนกว่า ๑๗๐,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็น ๙๓.๖๓% ของบประมาณที่ได้รับ ไม่ต่างจากงบของกระทรวงมหาดไทยของพรรคร่วมรัฐบาล พบเป็นงบลงทุนกว่า ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็น ๓๒.๘๘% ของงบประมาณที่ได้รับ ขณะที่ งบกระทรวงกลาโหม เป็นงบลงทุนกว่า ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็น ๒๒.๙๒% ของงบประมาณที่ได้รับ จึงเห็นว่างบส่วนใดที่สามารถ ชะลอได้ ควรขยายเวลาในการดำเนินการออกไปเพื่อนำเงินส่วนดังกล่าว มาใช้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์สูงสุด และมีประสิทธิภาพต่อประชาชนก่อนส่วน ๑ พอได้ คือ งบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นงบลงทุนกว่า ๘๔,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็น ๗๑.๓๒% ของงบประมาณที่ได้รับ โดยในส่วนของงบดังกล่าวขอให้งบที่ลงไปในแต่ละจังหวัดเกิดความเป็นธรรม และรัฐบาลควรออกมาชี้แจง เกณฑ์การจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรทุกภาคส่วนของประเทศอย่างแท้จริงนายฐากร กล่าวอภิปรายสรุปว่า ๓ ขาด ๓ เกิน ๑ พอได้จะสร้างความเหลื่อมล้ำด้านโอกาส ทำให้สังคมแตกต่างกันมากยิ่งขึ้น เพราะขาดการพัฒนามนุษย์ ขาดการพัฒนาด้านการศึกษา งบประมาณมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านวัตถุ จะทำอย่างไรเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีรายได้อย่างมั่นคง อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีมีคุณภาพชีวิตที่ดี จึงขอให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนในชั้นกรรมาธิการ เพื่อให้การใช้งบประมาณมีประสิทธิภาพ มีประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน.