“คริษฐ์” สงสัย งบจัดการน้ำรัฐบาลเศรษฐา หรือเป็นภาคต่อรัฐบาลบิ๊กตู่

“คริษฐ์ ปานเนียม” เหน็บรัฐบาล ตอนเป็นฝ่ายค้านร่วมกันบอกงบจัดการน้ำไม่เพียงพอ เมื่อได้มาบริหารกลับเดินรอยตามลุงตู่ อัดจัดสรรงบไม่เป็นธรรม ทิ้งคนต้นน้ำ คนนอกเขตชลประทานวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๐.๔๘ น. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ วาระแรก วงเงิน ๓,๔๘๐,๐๐๐ ล้านบาท  นายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก พรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายเรื่องการจัดการน้ำ ว่า เมื่อตอนเป็นฝ่ายค้านร่วมกัน เห็นพ้องในการจัดการน้ำว่างบไม่เพียงพอ พอได้มาเป็นรัฐบาลก็เดินรอยตามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คนที่เดือดร้อนกับเรื่องภัยแล้งมากที่สุดคือเกษตรกร จึงขอแสดงความเสียใจกับเกษตรกรด้วย เพราะการจัดสรรงบไม่มีอะไรใหม่ ไม่ใช่คำตอบของอนาคตประเทศพร้อมแนะนำรัฐบาลว่าควรเพิ่มพื้นที่น้ำนอกเขตชลประทาน เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอ อีกทั้งยังพบว่าไม่มีการบริหารจัดการฟลัดเวย์ มีแต่ที่ให้น้ำอยู่ แต่ไม่มีที่ให้น้ำไป และเจอปัญหาน้ำไม่เต็มเขื่อน หรือมีน้ำในเขื่อนแต่คนแทบไม่ได้ใช้ รัฐบาลเอาแต่คนกรุงเทพฯ รอด ไม่สนคนต้นน้ำ ขณะที่การเตือนภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ตั้งงบไว้ ๑๓๕ ล้าน กลับทำได้แค่เตือนภัยระดับอำเภอ จังหวัด แทบจะไม่มีประโยชน์ เช่นที่ จ.นราธิวาส พบว่าการเตือนภัยเรื่องน้ำท่วมล้มเหลว ไม่มีการบอกให้อพยพ และเส้นทางน้ำไหล ยืนยันว่าการเตือนภัยผ่านระบบ “Cell Broadcast” หรือระบบเตือนภัยฉุกเฉินทางมือถือ เป็นสิ่งที่ต้องทำ“ท่านจัดงบทิ้งคนต้นน้ำ หวังเพียงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เร่งปล่อยน้ำทิ้งไปอย่างสูญเปล่า ท่านจัดสรรงบประมาณที่ไม่เป็นธรรม ไม่ทั่วถึง ให้เกษตรกรที่ยากลำบากในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ท่านละเลยปัญหาภัยพิบัติจากน้ำ ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินไปกับน้ำซ้ำซากทุกปี ผมอดสงสัยไม่ได้ ว่าการจัดสรรงบประมาณเพื่อการเกษตรและแหล่งน้ำของรัฐบาลเศรษฐา หรือเป็นการจัดการภาคต่อของรัฐบาลชุดที่แล้วกันแน่” นายคริษฐ์ กล่าว