“เศรษฐา” แจงปมงบ กอ.รมน. เชื่อ ทุกฝ่ายต้องการให้ ๓ จังหวัดชายแดนใต้เกิดความสงบ แต่อาจมองต่างกัน ด้าน “รอมฎอน” โต้กรณีพูดไบโพลาร์ พร้อมฝากนายกฯ เซ็นรับรองร่าง พระราชบัญญัติยุบ กอ.รมน. กลับเข้าสภาเมื่อเวลา ๑๔.๓๒ น. วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นตอบการอภิปราย ในวาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) วิธีการบริหารจัดการปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลายประเด็นน่ากลับมาหยิบยกพูดคุย และให้ทีมงานนำไปขยายผลต่อเพื่อปัญหาจะได้ลดลง นายเศรษฐา กล่าวถึงภาพรวมว่า ปัญหา ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัญหาที่สะสมมานาน แต่ระยะหลังความรุนแรงลดน้อยลงอย่างมีนัย ต้องขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตัวแทนพรรคการเมืองที่มีส่วนร่วมให้เกิดความสงบ พูดคุยกับพี่น้องประชาชน ทำให้ปัญหาทางด้านความรุนแรงลดน้อยลง รวมถึงขอบคุณฝ่ายความมั่นคง และ กอ.รมน. ซึ่งท่านอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ตนเห็นการทำงานมา ก็ทราบว่า กอ.รมน. มีความตั้งใจจริง อาจจะมีวิธีการทำงานต่างกัน แต่เชื่อว่ามีจุดประสงค์เดียวกัน คือต้องการคืนความสงบและความมั่งคั่งให้กับพี่น้อง ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนทั้งนี้ ๑๐๐ กว่าวันที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และได้มีโอกาสลงพื้นที่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖ นัดเจอนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พูดคุยกันหลายเรื่อง ทั้งความสงบเรียบร้อย ปัญหาเศรษฐกิจ การเชื่อมโยงการค้าระหว่างกัน เรามีการพัฒนากันมาในหลายๆ มิติ เช่น การสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ ๒ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้การเข้าเมืองของทั้ง ๒ ฝ่ายดีขึ้น ซึ่งหลังมีการยกเลิก ตม.๖ มีนักท่องเที่ยวเข้าไทย ๓๐,๐๐๐ คนต่อวัน โรงแรมเต็มหมด จึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าถ้าประชาชนมีเงินในกระเป๋า มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ปัญหาความรุนแรงก็น่าจะลดน้อยลง ควบคู่กับการทำงานของฝ่ายความมั่นคงทั้ง ๒ ประเทศ ซึ่งมาเลเซียก็ชื่นชมเราว่ามีพลเรือนเป็นหัวหน้าทีมเจรจา และยินดีที่จะทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเรื่องใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ ตนว่าเป็นความคิดของแต่ละคนมากกว่า แต่ส่วนตัวมีความเชื่อว่าทั้ง สส.ที่นั่งอยู่ในที่นี้ หรือที่ลงแข่งขันเลือกตั้งที่ผ่านมา ทุกท่านมีความใส่ใจในแง่ของความสงบ ความเรียบร้อยของพี่น้องประชาชนในเขต ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใครทั้งนั้น กอ.รมน.เอง ท่านได้ให้ความกรุณาวิเคราะห์เรื่องงบมา ซึ่งจะน้อมรับไปพิจารณา พูดคุย ว่าจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้งบมีประโยชน์สูงสุด “เรื่องว่าถ้าเกิดมีความสงบแล้ว ไม่รู้ กอ.รมน. จะไปทำอะไร อันนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมพูดคุยกับท่านผู้บัญชาการทหารบกไปเรียบร้อยแล้ว มีหลายเรื่องที่อยากจะทำ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขอุทกภัย ภัยแล้ง ขุดบ่อ ขุดที่เก็บกักน้ำ เมื่อมีภัยพิบัติทางธรรมชาติ ท่านเองก็มีความตั้งใจที่จะออกมาช่วยกัน เมื่อวานนี้ก็พูดคุยกัน อาทิตย์หน้าก็จะลงไปซ่อมแซมบ้านให้กับผู้ประสบอุทกภัย ถือว่าเป็นเรื่องที่ กอ.รมน.เองก็ให้ความใส่ใจ ส่วนเรื่องของไบโพลาร์ ผมเองก็ไม่ได้เป็นหมอ ผมก็ไม่ทราบว่าท่านเป็นหรือเปล่า แต่เท่าที่ได้สัมผัสกับท่านมา ท่านไม่เคยเป็นคนที่สม่ำเสมอ แล้วก็ดูเรื่องของผลประโยชน์พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง เดี๋ยวจะมีการประชุมกันหลังบังลังก์นี้เกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป ขอบคุณ สส.ทุกท่าน ทุกพรรค ที่ให้ความใส่ใจด้านความสงบใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะน้อมรับข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็นของพวกท่านไป เพื่อที่จะทำประโยชน์สูงสุดให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน” tt ttต่อมา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ขอชี้แจงต่อจากนายกรัฐมนตรี ว่า ในเรื่องไบโพลาร์ ไม่ได้วิจารณ์ในแง่สุขภาพ แต่เป็นคำเปรียบเปรยถึงความไม่คงเส้นคงวาของการดำเนินนโยบาย การแปลงไปสู่ภาคปฏิบัติของ กอ.รมน. ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่ได้ละลาบละล้วงไปถึงเรื่องส่วนตัวของท่านใดท่านหนึ่ง พอท่านบอกว่า กอ.รมน. หมดงานแล้วจะไปยุ่งเรื่องอื่นอีกยิ่งตกใจใหญ่ คงต้องเตือนเพื่อนๆ สส.จังหวัดอื่นๆ อาจต้องรับมือ กอ.รมน. เพราะทิศทางเราอาจจะเห็นต่างกันจริงๆ ว่าจะดำรงองค์กรนี้อย่างไร สุดท้ายอยากให้นายกรัฐมนตรีเซ็นรับรองร่าง พระราชบัญญัติยุบ กอ.รมน. กลับมาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อ และจบการชี้แจงในเวลา ๑๔.๓๘ น.
นายกฯ แจงปม กอ.รมน. เชื่อทุกฝ่ายหวังจังหวัดชายแดนใต้สงบ แต่อาจมองต่างกัน
Related posts