นายกฯ ชี้แจงสภา ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญปัญหาฝุ่น PM ๒.๕ พูดคุยเอกชน ทั้งในและประเทศเพื่อนบ้าน ใช้มาตรการภาษีมาช่วยแก้ไขปัญหา ลดการเผา สนับสนุนประชาชนใช้ EV พร้อมดัน พระราชบัญญัติอากาศสะอาด วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๗.๕๐ น. ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชั้น ๒ อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ ๒) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดยนายกรัฐมนตรีชี้แจงถึงประเด็นอากาศสะอาดและการแก้ไขปัญหา PM ๒.๕ ว่า รัฐบาลตั้งใจจะยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอากาศสะอาด โดย PM ๒.๕ เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งหลังจากได้รับตำแหน่งได้เดินทางไปราชการที่จังหวัดเชียงใหม่หลายครั้ง และได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องแผนงานที่จะดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา มีหลายเรื่องที่ต้องทำ และต้องให้ความรู้กับประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำการเกษตรที่ต้องไม่มีการเผา และเรื่อง PM ๒.๕ ทั้งนี้ จุดกำเนิดของปัญหา PM ๒.๕ มาจากเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เนื่องจากพืชผลไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือข้าวโพดภายหลังการปลูกจะมีการเผาทำลาย เศษ ตอข้าว ซังข้าวโพด เพราะหากไถกลบจะใช้ค่าใช้จ่ายสูงกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยให้ความรู้กับประชาชน จัดตั้งหน่วยงานรับซื้อซังข้าวโพดเพื่อมาทำพลังงานทดแทน หรือทำปุ๋ย รวมทั้งการเผาอ้อย ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมามีปริมาณลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดย พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดอยู่ระหว่างชั้นการพิจารณาของนิติบัญญัติ หวังว่าจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคมนี้ ส่วนของการใช้งบประมาณรัฐบาลที่กันบางส่วนไว้สำหรับเมื่อเกิดภัยพิบัติก็จะได้นำออกมาใช้ได้ รวมทั้งมีส่วนของการเจรจากับเพื่อนบ้าน ที่มีเอกชนไปปลูกข้าวโพดทั้งในลาวและเมียนมามีการพูดคุย และคาดโทษโดยใช้มาตรการด้านภาษีมารองรับ “เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการพูดคุย และให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง นโยบายหลักของไทยคือต้องการให้ประชาชนมาใช้รถ EV เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะมีเอกชนสนใจมาตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ EV ในประเทศไทย ใช้เป็นฐานการผลิตส่งออกไปทั่วโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาโดยตลอด” ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สัปดาห์หน้าวันที่ ๑๐ ถึง ๑๒ มกราคม นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเชียงใหม่อีก เพื่อไปกำชับสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันความสำคัญนโยบาย PM ๒.๕ พูดคุยเพื่อหาทางป้องกันให้ช่วงที่เป็น High Season นี้ มีหมอกควันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งมาตลอด