“กัลยพัชร รจิตโรจน์” ถามรัฐบาล งบกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องใช้ผลิตแพทย์ รับมือผู้สูงอายุ เพิ่มบุคลากร ทำไมได้แค่หลักร้อย หลักพันล้าน แต่งบกระทรวงกลาโหมกลับได้หลักหมื่น หลักแสนล้าน แถมงบเงินอุดหนุนนักบริบาลท้องถิ่นถูกตัดออกทั้งหมดวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๗ เมื่อเวลา ๑๗.๑๕ น. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗ วาระแรก วงเงิน ๓,๔๘๐,๐๐๐ ล้านบาทน.ส.กัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องปัญหาด้านการสาธารณสุข โดยระบุว่า ปัจจุบันมีผู้มีภาวระพึ่งพิงเพิ่มขึ้นจาก ๒๑๐,๐๐๐ คน เป็น ๕๗๔,๐๐๐ คน รพ.สต.มากกว่าครึ่งยังไม่ถูกถ่ายโอนไปยังท้องถิ่น แพทย์ทำงานสัปดาห์ละ ๘๐-๑๐๐ ชม. หรือเฉลี่ยวันละ ๑๔ ชม. ขณะที่ ๑ ใน ๓ ของแพทย์ทั้งหมดที่ผลิตได้ลาออกจากระบบสาธารณสุขของรัฐ โดยในปีที่ผ่านมามีแพทย์ใช้ทุนออกจากระบบถึง ๙๐๐ คน ส่วนการขอเงินอุดหนุนนักบริบาลท้องถิ่น ๑๕,๐๙๔ คน จำนวน ๑,๐๘๖ ล้านบาท ถูกตัดออกทั้งหมด จึงขอตั้งคำถามว่า นี่หรือคือการรับมือกับสังคมสูงอายุ ขณะที่การถ่ายโอน รพ.สต. ๙,๘๓๖ แห่ง ไปอยู่กับท้องถิ่น ในปี ๒๕๖๖ สามารถถ่ายโอนได้แค่ ๓,๒๖๔ แห่ง เนื่องจากมีอุปสรรคที่ยุ่งยาก จัดสรรงบถ่ายโอนไม่เพียงพอ ทำให้ รพ.สต.เหลือค้างถึง ๕,๖๕๑ แห่ง ส่วนงบพัฒนาระบบการแพทย์ปฐมภูมิยังถูกลดงบลงเหลือเพียง ๕๙๘ ล้านบาท จาก ๒,๖๐๔ ล้านบาท ทั้งที่เป็นงบเรือธงของรัฐบาล“ทำไมงบกระทรวงสาธารณสุขมันเป็นงบหลักร้อย หลักพันล้านเช่นนี้ ในขณะที่กระทรวงกลาโหมเป็นหลักหมื่นล้าน พันล้าน”น.ส.กัลยพัชร ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าผลิดแพทย์ ๓,๐๐๐ คน แต่เมื่อดูงบอุดหนุนการผลิตกลับไม่ตรงตามเป้า อีกทั้งมองว่าบุคลากรที่ไปทำงานที่กันดารควรได้ค่าตอบแทนพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ขาดแคลนนอกเหนือจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะจังหวัดกันดารเหล่านั้น แพทย์ ๑ คน ต้องดูแลคนไข้หลายพันคน นอกจากนี้ยังพบค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะเวรบ่าย ดึก ของพยาบาล ที่ไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมาหลายปีแล้ว อีกทั้งพยาบาลหลายคนถูกละเลยไม่ได้รับการบรรจุ พร้อมทั้งกังวลว่านโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ ที่เป็นเรื่องดีนั้น อาจจะเกิดการกระจุกการรักษาที่ รพ.ศูนย์ขนาดใหญ่ และ รพ.ทั่วไป แทนไปรักษาที่ รพ.ชุมชน และ รพ.สต.
