Thursday, 19 December 2024

อว. จับมือ ๖ หน่วยงานหลัก ยกระดับอาหารพื้นถิ่น สู่นวัตกรรมอาหารปลอดภัย

อว.ลุยยกระดับอาหารพื้นถิ่น และอาหารฟังก์ชัน สู่นวัตกรรมอาหารปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการฉายรังสี เพื่อเพิ่มโอกาสการตลาด ผ่านความร่วมมือ ๖ หน่วยงาน โดย สทน. วช. และ ๔ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) เป้าหมาย จ.อุดรธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษเมื่อวันที่ ๕ ม.ค. ๖๗ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดฯ อว. เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องการบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมและการใช้ประโยชน์ โดยมี รองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน., ด็อกเตอร์วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการ วช. และอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ ๔ แห่ง ได้แก่ มรภ.อุดรธานี มรภ.บุรีรัมย์ มรภ.สุรินทร์ และ มรภ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สทน. วช. และ มรภ. เข้าร่วมงานtt ttนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นกระทรวงที่ดูแลและขับเคลื่อนองค์ความรู้ของประเทศ ทั้งการพัฒนากำลังคนขั้นสูง การวิจัยและพัฒนา การนำผลงานวิจัยและพัฒนาไปใช้ประโยชน์ และการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ในการขับเคลื่อนการวิจัย การลงนามความร่วมมือของทั้ง ๖ องค์กรในวันนี้จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่องค์กรด้านวิทยาศาสตร์และภาคการศึกษาได้มาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง ในยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม การส่งเสริมความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งตรงกับยุทธศาสตร์ในเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของประเทศ และสร้างระบบนิเวศการวิจัยรศ.ด็อกเตอร์ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการ สทน. กล่าวเพิ่มว่า การยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น เพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐาน ด้วย “เทคโนโลยีและนวัตกรรม” เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯในวันนี้ จึงเกิดขึ้นเพื่อให้การฉายรังสีในอาหารเป็นที่ยอมรับและมีการใช้ประโยชน์แพร่หลายมากขึ้น และจากการที่ทุกวันนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้มี “อาหารฟังก์ชัน” และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพเกิดขึ้นมากมาย สทน.จึงมุ่งหวังนำเทคโนโลยีการฉายรังสีมาร่วมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารฟังก์ชัน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เพื่อช่วยรับรองถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพออกมาจำหน่ายให้คนไทยได้มีสุขภาพที่ดีต่อไปด้วยtt ttสำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานต่อยอดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อเนื่องจากปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา โดยในปี ๒๕๖๗ นี้ มีผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่นในจังหวัดเป้าหมาย คือ มรภ.อุดรธานี ได้แก่ หมกฮวก แหนมเนือง แหนมกบ ขนมปังญวณ, มรภ.บุรีรัมย์ ได้แก่ ยำกุ้งจ่อม ดักแด้ทรงเครื่อง แกงเผือกปลาย่าง ขนมตดหมา, มรภ.สุรินทร์ ได้แก่ หมาน้อย แกงกล้วย ปลาปิ้ง ข้าวต้มใบมะพร้าว และ มรภ.ศรีสะเกษ ได้แก่ “บ๊าะกะต๊าด” หรือส้มตำกระดาษ แกงอ่อมปู แกงเปรอะทุเรียนภูเขาไฟ ไก่ย่างไม้มะดัน เป็นต้นโดยทุกหน่วยงานจะทำงานร่วมกันทั้งในเรื่องการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ การสร้างการยอมรับเรื่องประโยชน์ของการฉายรังสีผลิตภัณฑ์ และอำนวยความสะดวกให้มีศูนย์ประสานงานในการส่งผลิตภัณฑ์เพื่อมาฉายรังสี รวมทั้งมีการใช้พื้นที่ และทรัพยากรต่างๆ ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาตัวสินค้า จนสามารถขยายไปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะนำไปจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศtt tt”อยากขอเชิญชวนผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ สทน. และหน่วยงานภาคีที่ MOU ร่วมกันในวันนี้ พร้อมแล้วที่จะนำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีอยู่ มาช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบการทุกท่าน ทั้งกลุ่ม OTOP วิสาหกิจชุมชน และ SME ให้เป็นธุรกิจชุมชนที่เข้มแข็ง และผลิตภัณฑ์ท่านจะมีทางเลือก มีโอกาสในการทำตลาดเพิ่มมากขึ้น” ผู้อำนวยการสทน.กล่าวทั้งนี้นับจากปี ๒๕๖๔ ที่ สทน. ได้ร่วมกับสถาบันราชภัฏ นำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ด้านการฉายรังสีอาหารลงไปส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตอาหารพื้นถิ่น และกลุ่มผู้ประกอบการ SME ภายใต้โครงการ “การสร้างมูลค่าให้กับอาหารพื้นถิ่น ด้วยการฉายรังสีอาหาร” ทำให้ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมโครงการแล้วรวมทั้งสิ้น ๕๔๓ ผลิตภัณฑ์.tt tt