สำนวนความที่เกี่ยวข้องกับคดีของนายเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักการเงินและผู้ต้องหาคดีค้าประเวณีเด็ก ได้มีการเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน และเจ้าชายแอนดรูว์ เจ้าชายแอนดรูว์เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงซึ่งมีชื่ออยู่ในสำนวนคดีของศาลที่เพิ่งมีการเผยแพร่ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับ “เจฟฟรีย์ เอปสตีน” นักการเงินชื่อดังและผู้กระทำผิดคดีทางเพศผู้พิพากษาสหรัฐฯ สั่งให้เผยแพร่บันทึกดังกล่าวโดยเป็นส่วนหนึ่งของคดีที่เกี่ยวข้องกับกิสเลน แม็กซ์เวลล์ ผู้ช่วยของเอปสตีน เอกสารทางกฎหมายดังกล่าวยังรวมถึงคำกล่าวอ้างถึงเจ้าชายแอนดรูว์ ที่เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ยังมีชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในไฟล์ข้อมูลหลายสิบไฟล์ ได้แก่ บิล คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์ แม้ว่าจะไม่มีใครถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดกฎหมายก็ตามเอกสารดังกล่าวซึ่งมีความยาวประมาณ ๙๐๐ หน้า ดูเหมือนจะไม่เปิดเผยการเปิดเผยข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับเอปสตีน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติมในคดีนี้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จากบุคคลที่มีรายชื่อในเอกสารดังกล่าวมากกว่า ๑๐๐ คน บางคนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังตั้งกล่าวหาหรืออาจอยู่ในฐานะพยานเมื่อออกคำสั่งให้เปิดเผยเอกสารดังกล่าว ผู้พิพากษาลอเร็ตตา เพรสกา แห่งนิวยอร์ก กล่าวว่าบุคคลที่มีชื่อหลายคนได้รับการระบุตัวจากสื่อแล้ว หรืออยู่ในการพิจารณาคดีอาญาของแม็กซ์เวลล์ เธอกล่าวเสริมว่าอีกหลายคนไม่ได้คัดค้านการเปิดเผยเอกสารดังกล่าว และสั่งให้ปกปิดชื่อบางชื่อเอาไว้ เนื่องจากจะใช้ระบุตัวเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศได้สำนวนความดังกล่าวระบุถึงคำกล่าวอ้างของโยฮันนา สโคแบร์เยอ ว่าถูกเจ้าชายแอนดรูว์จับหน้าอกเมื่อปี ๒๕๔๔ ขณะนั่งอยู่บนโซฟาในอพาร์ตเมนต์ของนายเอปสตีน ในย่านแมนฮัตตัน ก่อนหน้านี้ พระราชวังบักกิงแฮมเคยกล่าวว่า ข้อกล่าวหาของเธอ “ไม่เป็นความจริงอย่างเด็ดขาด” ในการให้การครั้งหนึ่ง สโจเบิร์กกล่าวหาว่าเจ้าชายแอนดรูว์เอามือบนหน้าอกของเธอเพื่อถ่ายรูปร่วมกับ เวอร์จิเนีย จูฟเฟร ผู้กล่าวหาอีกคนหนึ่ง และหุ่นเชิดที่มีคำว่า “เจ้าชายแอนดรูว์” อยู่ด้วยในปี ๒๐๒๒ ราชวงศ์อังกฤษจ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์ให้กับจูฟเฟร เพื่อยุติคดีที่เธอฟ้องโดยกล่าวหาว่าเขาล่วงละเมิดทางเพศเธอตอนที่เธออายุ ๑๗ ปี ด้านเจ้าชายแอนดรูว์กล่าวว่า พระองค์ไม่เคยพบกับจูฟเฟร และปฏิเสธข้อกล่าวหาของเธออดีตประธานาธิบดีคลินตันของสหรัฐฯ ก็ถูกระบุชื่อในเอกสารดังกล่าวเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายใดๆ ก็ตาม ตามบันทึกดังกล่าว สโคแบร์เยอให้การเป็นพยานว่า เอปสตีนเคยบอกเธอว่า นายคลินตัน “ชอบเด็ก” โดยนายคลินตันเคยมีความสัมพันธ์กับนักศึกษาฝึกงานในทำเนียบขาววัย ๒๒ ปี ขณะที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯเอกสารดังกล่าวมีคำให้การจากแม็กซ์เวลล์ ที่ยืนยันว่านายคลินตันได้เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเอปสตีน แต่เธอไม่ทราบว่ากี่ครั้ง โดยนายคลินตันเดินทางด้วยเครื่องบินของเอปสตีน ในการเดินทางที่ถูกระบุว่าเป็นการเดินทางเพื่อมนุษยธรรมไปยังแอฟริกา ในช่วงต้นทศวรรษ ๒๐๐๐ และในขณะนั้นก็ยกย่องเอปสตีนว่าเป็นผู้ใจบุญที่มีความมุ่งมั่น แม้ว่าเขาจะกล่าวในภายหลังว่าได้ตัดความสัมพันธ์กับเขาก็ตาม คำแถลงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี ๒๕๖๒ ระบุว่า เขาเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตของเอปสตีน พร้อมกับเจ้าหน้าที่และผู้สนับสนุนจากมูลนิธิคลินตัน ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของเขาเอกสารของศาลประกอบด้วยส่วนที่ทนายความของแม็กซ์เวลล์พยายามหักล้างรายงานของสื่อที่ว่า ไม่นานหลังจากที่เขาออกจากตำแหน่ง นายคลินตันก็เดินทางไปยังเกาะลิตเติลเซนต์เจมส์ เกาะส่วนตัวของเอปสตีนในทะเลแคริบเบียนทนายความของแม็กซ์เวลล์กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ “ไม่ได้เดินทางไปหรืออยู่ที่เกาะลิตเติลเซนต์เจมส์ ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๔ ถึง ๑ มกราคม ๒๕๔๖” ทนายความกล่าวเสริมว่าหากการกล่าวอ้างเป็นจริง เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีจะต้องส่งบันทึกการเดินทางให้ศาลอัลเฟรโด โรดริเกซ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้รักษาความปลอดภัยให้กับเอปสตีน ระบุในคำให้การว่า แม็กซ์เวลล์เป็น “เจ้านาย” ตามคำฟ้องของศาล นายโรดริเกซซึ่งเสียชีวิตในปี ๒๕๕๘ ได้รับคำสั่งให้พกเงินสดติดตัวตลอดเวลา เพื่อมอบให้กับนักเรียนหญิงมัธยมปลาย และเด็กผู้หญิงที่ช่วยจัดหาเด็กหญิงให้เอปสตีน นายเอปสเตนเสียชีวิตในคุกในปี ๒๕๖๒ การเสียชีวิตของเขาในขณะที่เขารอการพิจารณาคดีค้าประเวณีเด็ก ถูกระบุว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ขณะที่แม็กซ์เวลล์ กำลังรับโทษจำคุก ๒๐ ปีจากความผิดในฐานะผู้จัดหาผู้เยาว์ให้กับเอปสตีน ทนายความของเธอกำลังอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว.ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
