Thursday, 19 December 2024

เกาหลีใต้ชี้ "ลูกสาว" คิม จอง อึน มีแนวโน้มเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือ

หน่วยข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ลูกสาวคนเล็กของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ซึ่งมักร่วมในการทดสอบขีปนาวุธและพิธีสวนสนาม เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำประเทศที่มีแนวโน้มมากที่สุดหน่วยสืบราชการลับแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ เอ็นไอเอส เปิดเผยว่า ลูกสาวคนเล็กของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ซึ่งมักร่วมในการทดสอบขีปนาวุธและพิธีสวนสนาม เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งที่มีแนวโน้มมากที่สุด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ แสดงการยอมรับ “คิม จู แอ” ในฐานะทายาทของนายคิม จอง อึนอย่างไรก็ตาม เอ็นไอเอสกล่าวว่า ยังคงพิจารณาความเป็นไปได้ทั้งหมดในแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้นำประเทศของเกาหลีเหนือ หลังจาก “คิม จู แอ” เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปนับตั้งแต่ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกในปลายปี ๒๕๖๕เอ็นไอเอส ระบุว่า “จากการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับกิจกรรมสาธารณะ และระดับการแสดงความเคารพต่อคิม จู แอ นับตั้งแต่ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมากที่สุด แต่เรากำลังจับตาดูความเป็นไปได้ทั้งหมด เพราะคิม จอง อึน ยังอายุน้อย ไม่มีปัญหาสุขภาพที่สำคัญ และมีตัวแปรมากมาย”คิม จู แอ เป็นลูกคนที่ ๒ ของผู้นำเกาหลีเหนือ และเชื่อว่ามีอายุประมาณ ๑๐ ปี ด้านคิม ยุงโฮ รัฐมนตรีกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ ได้เคยประเมินสถานการณ์ของบุตรสาวของนายคิม ในลักษณะเดียวกันในงานแถลงข่าวเมื่อเดือนที่แล้วเขากล่าวว่า “การที่ลูกสาวของคิม จอง อึน ได้รับความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหลักฐานว่าเกาหลีเหนือกำลังเร่งแสดงเจตนารมณ์เรื่องการสืบทอดตำแหน่ง ท่ามกลางสถานการณ์ภายในที่ยากลำบาก”ผู้สังเกตการณ์เกี่ยวกับเกาหลีเหนือตั้งข้อสังเกตว่า ตอนนี้คิม จู แอ ถูกเรียกว่าเป็นลูกสาวที่ “เคารพ” แทนที่จะเป็น “ที่รัก” เนื่องจากเธอได้รับการแนะนำตัวครั้งแรกในระหว่างการเปิดตัวต่อสาธารณะในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ทั้งนี้ คำคุณศัพท์ “เคารพ” มักถูกสงวนไว้สำหรับผู้ที่ได้รับการเคารพนับถือมากที่สุดของเกาหลีเหนือ ในกรณีของนายคิม เขาจะถูกเรียกว่า “สหายที่เคารพ” หลังจากที่สถานะของเขาในฐานะผู้นำในอนาคตถูกกำหนดไว้แล้วเท่านั้นพลเมืองของเกาหลีเหนือได้รับแจ้งว่า ตระกูลคิมมาจากสายเลือดอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหมายความว่ามีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่สามารถเป็นผู้นำประเทศได้ นายคิมต้องการสร้างความมั่นใจว่า เขาจะส่งต่อตำแหน่งดังกล่างไปยังคนรุ่นที่สี่ของตระกูลล่าสุด คิม จู แอ ได้ร่วมเดินทางไปกับบิดาของเธอในการเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีปเชื้อเพลิงแข็ง “ฮวาซอง-๑๘” ของเกาหลีเหนือเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลที่ทันสมัยที่สุดในคลังแสงเธอยังอยู่เคียงข้างพ่อของเธอ ในขณะที่เกาหลีเหนือได้ส่งดาวเทียมสอดแนมมัลลิกยอง-๑ ขึ้นสู่วงโคจรเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากความพยายามประสบความล้มเหลวมาแล้ว ๒ ครั้ง เกาหลีเหนืออ้างว่า มัลลิกยอง-๑ จะทำให้นายคิมได้เห็นภาพของทำเนียบขาวนักวิเคราะห์กล่าวว่า การเปิดตัวต่อสาธารณชนตั้งแต่เนิ่นๆ อาจเป็นวิธีหนึ่งของนายคิมในการสร้างความมั่นใจว่าลูกสาวของเขาจะสามารถสถาปนาตัวเองก่อนที่เธอจะขึ้นสู่อำนาจ นอกจากนี้ยังอาจเป็นหนทางสำหรับนายคิมที่จะเอาชนะความมีอคติ ซึ่งความเป็นปิตาธิปไตยฝังรากลึกเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่เคยมีผู้หญิงขึ้นเป็นผู้นำมาก่อนครั้งแรกที่มีการกล่าวถึงการมีอยู่ของคิม จู แอ คือในปี ๒๕๕๖ หลังจากที่เดนนิส ร็อดแมน นักบาสเกตบอลชาวอเมริกันชื่อดัง ได้เดินทางไปยังเกาหลีเหนือ ร็อดแมนกล่าวว่า เขาใช้เวลาอยู่กับครอบครัวของนายคิม พักผ่อนริมทะเล และ “อุ้มลูกของพวกเขา”ผู้นำเกาหลีเหนือ มักเก็บเรื่องครอบครัวของเขาเป็นความลับ แม้แต่เรื่องของ รี ซอล-จู ภรรยาของเขา ก็ยังถูกเก็บเป็นความลับเป็นระยะเวลาหนึ่ง หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกัน.ดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign

Related posts