กรมควบคุมมลพิษประกาศประเทศไทยเข้าสู่ “ฤดูฝุ่น” รับ มือ ๕-๑๒ มกราคมหนัก เผย PM ๒.๕ กทม.-ภาคกลางรุนแรงสุดเดือน ก.พ. จากนั้นไปต่อที่ภาคเหนือ ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกวันรายงาน พื้นที่ Hot Spot ของแต่ละจังหวัด เผยจุดความร้อนเกิดในพื้นที่นาข้าวมากที่สุด ตามด้วยไร่อ้อย ไร่ข้าวโพดเมื่อวันที่ ๕ ม.ค. ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผช.รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย น.ส.ปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ หรือ คพ. แถลงข่าวไทยเข้าฤดูฝุ่นแล้ว ร.อ.รชฏกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM๒.๕ พร้อมมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรฯ ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM๒.๕ ปี ๒๕๖๗ อย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดพื้นที่มุ่งเป้า ๑๑ ป่าอนุรักษ์ ๑๐ ป่าสงวน พื้นที่เกษตรเผาไหม้ซ้ำซาก และการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมืองที่เป็นการควบคุมที่ต้นตอของฝุ่น ขณะนี้ได้ปรับกลยุทธ์การสื่อสารด้วยการให้ข้อมูลที่ชัดเจน ตรงประเด็น กลไกการบริหารจัดการด้วยการจัดตั้งศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศจะสื่อสาร แจ้งเตือนสถานการณ์ฝุ่น และแนะนำการปฏิบัติตนแก่ประชาชน ชี้เป้าต้นตอหรือแหล่งกำเนิดฝุ่นของพื้นที่ เช่น การเผาในพื้นที่ป่า นาข้าว อ้อย ข้าวโพด ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งให้กับศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด หน่วยงานที่กำกับดูแลแหล่งกำเนิด เพื่อการระงับ ยับยั้งต้นตอ แหล่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นน.ส.ปรีญาพรกล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝุ่นอย่างเป็นทางการ เนื่องจากนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สถานการณ์ฝุ่นในไทยจะเริ่มมีความรุนแรงขึ้น ที่ประกาศว่าเป็นฤดูฝุ่นเพื่อให้เรารู้ว่าถึงเวลาต้องเตรียมตั้งรับและดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เข้มข้นทุกมาตรการ สถานการณ์ฝุ่นโดยทั่วไปในภาคกลาง เริ่มมีมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน๒๕๖๖-มีนาคม๒๕๖๗ พีกสุดในเดือน กุมภาพันธ์๒๕๖๗ จากนั้นจะรุนแรงที่ภาคเหนือ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีอัตราการระบายอากาศต่ำมาก ตั้งแต่ช่วงวันที่ ๕-๑๒ มกราคม๒๕๖๗ แหล่งกำเนิดหลักที่มีผลต่อสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ การจราจรในพื้นที่ แหล่งกำเนิดจากนอกพื้นที่ ได้แก่ ฝุ่นจากการเผาในที่โล่งในจังหวัดปริมณฑลและโดยรอบ ดังนั้น ถ้าไม่ควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นในเมือง จะทำให้ฝุ่นเยอะขึ้นและ สะสมเป็นแอ่งในกรุงเทพฯ ถ้ามีลมประกอบจะพัดพาฝุ่นไปทางทิศตะวันตกด้วย ขณะที่พื้นที่ภาคตะวันตกเริ่มปรากฏสีแดง เนื่องจากพบจุดความร้อนจากการเผา ทิศทางลมลงมาทางปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรสาคร นครปฐม สมุทรสงคราม และกรุงเทพฯด้านอธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าว กระทรวง จึงมีมาตรการควบคุมการเผาในพื้นที่โล่ง จากข้อมูลพบว่า ช่วงก่อนปีใหม่มีจุดความร้อน (Hot Spot) ๒๐๐ จุด แต่หลังปีใหม่เพิ่มเป็น ๑,๒๐๐ จุด ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่นาข้าวถึง ๓๘% พื้นที่เกษตร เช่น ไร่อ้อย ๑๓% ไร่ข้าวโพด ๖% อย่างไรก็ดี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศงดการเผาและควบคุมการเผา รวมทั้งมีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกวันว่า ในพื้นที่ของแต่ละจังหวัดมี Hot Spot ปริมาณมากน้อยเท่าไร ควรจะควบคุมอย่างไรบ้าง ในวันที่ ๑๐-๑๒ มกราคม๒๕๖๗ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการทรัพยากรฯ จะเดินทางไปภาคเหนือเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
เตือนภัย "ฤดูฝุ่น" รับมือ ๕-๑๒ ม.ค. กรุงเทพฯ หนัก ฮอตสปอตพุ่ง จับตาลอบเผา
Related posts