Friday, 15 November 2024

“เศรษฐา” เตรียมต้อนรับ ปธน.เยอรมนี เยือนไทยครั้งแรกอย่างเป็นทางการ

นายกฯ เตรียมต้อนรับ “ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์” ประธานาธิบดีเยอรมนี เยือนไทย ๒๔–๒๖ มกราคมในรอบ ๑๐ ปี ครั้งแรกของรัฐบาลผู้นำรัฐต่างประเทศเยือนเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพ ต่อยอดขยายการค้าการลงทุนวันที่ ๖ ม.ค. ๒๕๖๗ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะต้อนรับ ดร. ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ (H.E. Dr. Frank-Walter Steinmeier) ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ภริยา และคณะ ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๖ ม.ค. ๖๗ ตามคำเชิญนายกฯโดยมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับนายกฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ จะร่วมกันเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือระหว่างไทยและเยอรมนี ๒ ฉบับในด้านระบบรางและวิทยาศาสตร์ โดยนายกฯ จะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีฯ และภริยาพร้อมคณะผู้แทนเยอรมัน ณ ทำเนียบรัฐบาลขณะที่ ในโอกาสการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานวโรกาสให้ประธานาธิบดีฯ พร้อมด้วยภริยา เข้าเฝ้าฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต การเยือนครั้งนี้นับเป็นการเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งแรกนับตั้งแต่ ดร. ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเมื่อปี ๒๕๖๕ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๐ ปี ซึ่งเคยมีการเยือนประเทศไทยในระดับประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเมื่อปี ๒๕๔๕ (นายโยฮันเนส เรา (Johannes Rau)) และถือเป็นครั้งสำคัญเพราะเป็นการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของผู้นำรัฐจากต่างประเทศเป็นครั้งแรกของรัฐบาลชุดปัจจุบัน การเยือนประเทศไทยในครั้งนี้เป็นโอกาสของฝ่ายไทยและเยอรมนีในการเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรทั้งในด้านการเมือง การขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนทั้งสองฝ่าย รวมทั้งต่อยอดความร่วมมือในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานของค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเป็นโอกาสกระชับความร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ของโลกทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค เพื่อสานต่อไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership)“นายกรัฐมนตรีเชิญประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพื่อผลักดันผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งด้านการค้า การลงทุน พลังงาน ความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การอาชีวะ และความมั่นคง โดยเชื่อมั่นว่า การเยือนครั้งสำคัญนี้จะต่อยอด ส่งเสริมความร่วมมือไทย-เยอรมนีในทุกมิติ และส่งเสริมภาพลักษณ์ไทยในเวทีระหว่างประเทศ”