เครื่องบินโดยสารของ อะแลสกา แอร์ไลน์ส ต้องลงจอดฉุกเฉินในรัฐโอไฮโอ หลังหน้าต่างกับผนังบริเวณลำตัวเครื่องบินส่วนหนึ่ง หลุดออกไปขณะบินอยู่กลางอากาศสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินโบอิ้ง ๗๓๗ Max ๙ ของสายการบิน อะแลสกา แอร์ไลน์ส ต้องบินกลับมาลงจอดฉุกเฉินในรัฐโอไฮโอ เมื่อวันศุกร์ที่ ๕ ม.ค. ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา หลังชิ้นส่วนภายนอก บริเวณลำตัวเครื่องบิน รวมถึงหน้าต่างบานหนึ่ง หลุดออกไปขณะอยู่ที่ความสูง ๑๖,๐๐๐ ฟุต ระหว่างเดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียเครื่องบินดังกล่าวลงจอดที่สนามบินในเมืองพอร์ตแลนด์ได้อย่างปลอดภัย โดยที่ผู้โดยสารกับลูกเรือ ๑๗๗ ชีวิตไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ อะแลสกา แอร์ไลน์ส สั่งพักการใช้งานเครื่องโบอิ้ง ๗๓๗ Max ๙ ทั้ง ๖๕ ลำที่พวกเขามี เพื่อดำเนินการตรวจสอบ โดยนาย เบน ไมนิคุชชี ซีอีโอ ของสายการบิน ยืนยันว่า เครื่องบินแต่ละลำจะกลับไปให้บริการได้ก็ต่อเมื่อ การตรวจสอบความปลอดภัยและการซ่อมบำรุงเสร็จสิ้นแล้วเท่านั้นส่วนบริษัท โบอิ้ง ระบุว่า พวกเขาทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมทั้งนี้ จุดที่ชิ้นส่วนหลุดออกไปอยู่บริเวณด้านหลังส่วนที่ ๓ ของลำตัวเครื่องบิน หรือบริเวณหลังปีกและเครื่องยนต์ ซึ่งผู้ให้บริการบางรายใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นประตูทางออกฉุกเฉินเพิ่มเติม แต่ไม่ใช่สำหรับ อะแลสกา แอร์ไลน์สนายอีวาน สมิธ หนึ่งในผู้โดยสารบนเครื่องเล่าเหตุการณ์ระทึกให้สื่อฟังว่า “มีเสียงดังมากจากด้านหลังฝั่งซ้ายของเครื่องบิน และก็มีเสียงลมแรง จากนั้นหน้ากากออกซิเจนทั้งหมดก็ตกลงมา”“พวกเขาบอกว่า มีเด็กคนหนึ่งในที่นั่งตรงนั้น และเสื้อของเขาถูกดูดจนหลุดออกไปจากตัวเครื่อง แต่แม่ของเขากอดเขาไว้เพื่อให้แน่ใจว่า เขาจะไม่หลุดไปกับเสื้อด้วย”ส่วนนาย ดีเอโก มูริญโญ เผยว่า ช่องว่างที่เปิดออกกว้างใกล้เคียงกับตู้เย็น ขณะที่ น.ส.เอลิซาเบธ ลี ผู้โดยสารอีกคน เสริมว่า “ส่วนหนึ่งของเครื่องบินหายไป และเสียงลมก็ดังสนั่น แต่ทุกคนยังอยู่กับที่นั่งและคาดเข็มขัดเอาไว้”ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc
