จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่ประเทศญี่ปุ่นเพิ่มเป็นอย่างน้อย ๑๒๐ ศพแล้ว แต่ยังมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นบ้างเมื่อทีมกู้ภัยพบหญิงชราวัย ๙๐ ปีรอดตายหลังถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังนานถึง ๕ วันสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันเสาร์ที่ ๖ ม.ค. ๒๕๖๗ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวน ๑๐๐ นายถูกส่งไปยังเมืองซูซุ ในคาบสมุทรโนโตะ ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวระดับ ๗.๖ แมกนิจูดเมื่อวันจันทร์มากที่สุด หลังจากได้รับแจ้งว่า มีหญิง ๒ คนถูกฝังทั้งเป็นอยู่ใต้ซากบ้านเรือนที่พังลงมาที่เมืองซูซุ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหญิงชราอายุอยู่ในช่วง ๙๐ ปี ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคาร ๒ ชั้น โดยเธอยังคงตอบสนอง แต่คาดว่ากำลังป่วยด้วยอาการ ไฮโปเทอร์เมีย หรือ ภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำเกินไป นอกจากนั้น ทีมกู้ภัยยังช่วยหญิงวัยประมาณ ๔๐ ปีอีกคน ที่กำลังอยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันด้วย โดยยังไม่แน่ชัดว่าล่าสุดอาการของเธอเป็นอย่างไรทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ ๗.๖ แมกนิจูดเมื่อวันจันทร์ กับอาฟเตอร์ช็อกหลายร้อยครั้งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย ๑๒๐ ศพแล้ว ประชาชนกว่า ๓๐,๐๐๐ คนต้องอาศัยในที่พักชั่วคราวที่รัฐบาลจัดเอาไว้ให้กองกำลังป้องกันต้องเองของญี่ปุ่น ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยในปฏิบัติการกู้ภัย และขนส่งเสบียงแก่ผู้ประสบภัย เนื่องจากถนนหลายสายถูกดินถล่มกีดขวางตามรายงานของสำนักข่าว NHK ปฏิบัติการกู้ภัยในวันอาทิตย์ในบางพื้นที่อาจเผชิญอุปสรรคเนื่องจากสภาพอากาศเปียกชื้น และอาจเกิดดินถล่มลงมาเพิ่มขึ้นได้หากมีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อยนอกจากนั้น ทางการยังเตือนว่าแนวปะทะอากาศเย็น (cold front) จะเคลื่อนตัวเข้ามาในวันอาทิตย์ ซึ่งอาจทำให้เกิดหิมะตกต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์ในพื้นที่ภูเขาของจังหวัดอิชิคาวะ ที่ตอนนี้ประชาชนกว่า ๒๓,๒๐๐ ครัวเรือนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และกว่า ๖๖,๔๐๐ ครัวเรือนไม่มีน้ำประปานายฮิโรชิ ฮาเสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดอิชิคาวะเตือนว่า จังหวัดของเขากำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้ายยิ่งยวด และการฟื้นฟูระบบประปาอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากท่อน้ำมากมายมีรอยแตก โรงพยาบาลและบ้านพักคนชรากับผู้พิการบางแห่งก็เริ่มขาดแคลนพลังงานและน้ำติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreignที่มา : bbc
