โพล ชี้ ปี ๖๗ คนไทย เชื่อ ร้อยละ ๔๕.๖๕ การเมือง วุ่นวายเหมือนเดิม ร้อยละ ๓๕.๖๕ ระบุ สถานการณ์เศรษฐกิจ ดีขึ้น ขณะ ร้อยละ ๓๑.๒๒ จะแย่เหมือนเดิม ส่วน ร้อยละ ๓๙.๑๖ นายกฯ เศรษฐา อยู่ยาวตลอดปี ร้อยละ ๓๑.๙๘ คุณภาพชีวิตคนในสังคมไทย จะดีขึ้นวันที่ ๗ ม.ค. ๒๕๖๗ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในปี ๒๕๖๗” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ ๑๒-๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ จากประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในปี ๒๕๖๗ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ ๙๗.๐จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยโดยทั่วไป ในปี ๒๕๖๗ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๖ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๔๕.๖๕ ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายเหมือนเดิม รองลงมา ร้อยละ ๒๘.๔๐ ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายมากขึ้น ร้อยละ ๑๔.๓๔ ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายน้อยลง ร้อยละ ๖.๙๕ ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะไม่วุ่นวายเลย และร้อยละ ๔.๖๖ ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน ในปี ๒๕๖๗ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๙.๑๖ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะอยู่ยาวตลอดทั้งปี รองลงมา ร้อยละ ๒๐.๔๖ ระบุว่า รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสินจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ร้อยละ ๑๐.๖๑ ระบุว่า จะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ ๘.๔๐ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะลาออก ร้อยละ ๗.๘๖ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน จะเปิดทางให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแทน ร้อยละ ๖.๗๙ ระบุว่า จะเกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล และทำให้รัฐบาลล่ม ร้อยละ ๔.๒๐ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินจะโดนชุมนุมขับไล่ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ ๒.๑๔ ระบุว่า นายกเศรษฐา ทวีสิน จะโดนคดีความทางการเมืองจนต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ ๑.๘๓ ระบุว่า รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน จะโดนรัฐประหาร และร้อยละ ๑๖.๑๑ ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจสำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทย ในปี ๒๕๖๗ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๖ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๕.๖๕ ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ ๓๑.๒๒ ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะแย่เหมือนเดิม ร้อยละ ๑๗.๓๓ ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะแย่ลง ร้อยละ ๑๓.๖๖ ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะดีเหมือนเดิม และร้อยละ ๒.๑๔ ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปในสังคมไทย ในปี ๒๕๖๗ เมื่อเทียบกับปี ๒๕๖๖ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๑.๙๘ ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ ๓๑.๗๖ ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะแย่เหมือนเดิม ร้อยละ ๑๘.๑๗ ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะแย่ลง ร้อยละ ๑๖.๑๘ ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะดีเหมือนเดิม และร้อยละ ๑.๙๑ ระบุว่า เฉยๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจtt tt
