ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ งบประมาณค้างปี ๓.๔๘ ล้านล้านบาท คงผ่านวาระแรกไปได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะ ๓๑๔ เสียงของรัฐบาลยังหนาแน่นกลมเกลียวกันอยู่ก็ไปว่ากันต่อในขั้น กมธ. ซึ่งจะมีการแปรญัตติในแต่ละหมวดหมู่ ตัดนิดเติมหน่อยให้เข้าที่เข้าทาง เพื่อความ พอใจทั้ง ๒ ฝ่ายก็เป็นอย่างนี้มาตลอดทุกสมัย ฝ่ายค้านแม้จะต้องทำหน้าที่แต่ก็ต้องว่ากันไปตามภารกิจ ที่สุดแล้วคงไม่สร้างปัญหา อะไรมากไปกว่านี้เพราะ “งบประมาณ” เป็นเรื่องของชาติบ้านเมืองที่จำเป็นต้องประกาศใช้แต่ที่แน่ๆ การอภิปราย ๓ วันที่ผ่านมานั้น “ก้าวไกล-ปชป.” ได้ทำหน้าที่ค่อนข้างดี ว่ากันตามเนื้อผ้าเพื่อตรวจสอบไม่มีหย่อนให้แม้แต่น้อย“ปชป.” ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะ “ซูเอี๋ย” เพื่อหวังเข้าร่วมก็แสดงตัวตนชัดเจนแล้วว่าเป็นฝ่ายค้าน ๑๐๐%เป็นความต่างลักษณะน้ำกับน้ำมันยากที่จะอยู่ร่วมกันได้ฉะนั้น อย่าได้คิดหรือกังวลว่า “เพื่อไทย” จะเปิดประตูรับประชาธิปัตย์เข้าไปอยู่ใน “มุ้ง” เดียวกันง่ายๆเพราะมันเป็น “ปลาคนละน้ำ” ไปเสียแล้ว!กลับมาสู่การเมืองในภาพใหญ่ที่มีข่าวออกมาเป็นระยะในห้วงที่ผ่านมาว่านายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” จะปรับ คณะรัฐมนตรีพ่วงด้วยการนำ “อุ๊งอิ๊ง” เข้ามาเป็น รัฐมนตรีนั้นขอแยกออกเป็น ๒ ประเด็น…๑.การปรับ คณะรัฐมนตรีคงไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้เพียงแค่ ๓ เดือนกว่าๆ ยังไม่สามารถวัดว่าใครฝีมือแค่ไหนอย่าว่าแต่คนอื่นเลย นายกรัฐมนตรีเองก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นกันการปรับ คณะรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลผสม ๑๑ พรรคนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่มีอยากทำหรอก เพราะทำให้เกิดแรงกระเพื่อมได้ง่ายจากพรรคหนึ่งไปสู่พรรคอื่นๆวันนี้รัฐบาลอยู่สบายๆ เพียงแต่ต้องร่วมมือกันสร้างผลงานให้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้นก็เดินหน้าไปได้โดยเฉพาะเรื่อง “เศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดที่ประชาชนคาดหวังไว้สูง ต้องจัดการให้เห็นผลโดยเร็ว๒. การดึง “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้า “เพื่อไทย” เข้ามาเป็นรัฐมนตรีนั้น ยังไม่ถึงเวลาและ “อุ๊งอิ๊ง” ก็คงไม่ต้องการด้วยเช่นกันเพราะอยู่ข้างนอกก็สามารถสร้างผลงานและการยอมรับได้อยู่แล้ว อย่างนโยบาย “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตามลำดับที่สำคัญวันนี้ “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อก็ยังอยู่ในระหว่างหัวเลี้ยวหัวต่อ รอความเป็นอิสระท่ามกลางแรงกดดันรอบด้านหากลูกสาวเข้ามาอยู่กลางวง การเมืองน่าจะได้ผลกระทบไปด้วยอีกทั้งไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้อง มาเปลืองตัวเพื่อ “ชิงสุกก่อนห่าม” เพราะ ยังมีเวลาอีกนานที่จะเข้าสู่สนามจริงที่เป็นรูปธรรมหน่อย โพลความนิยมก็ยังไม่พีกสุด เพราะยังเป็นรอง แม้กระทั่ง “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้า “ก้าวไกล” เสียอีกรัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางที่จะพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “มั่นคง” แล้ว โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่เป็นผู้นำที่ครบเครื่องพอเพราะยังเป็นมือใหม่หัดขับสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสู้รอให้ถึงวาระ ให้ถึงเวลาที่เหมาะสมย่อมดีกว่าอีกแค่ ๔ ปีเท่านั้น!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม
Related posts