Thursday, 19 December 2024

ประชาธิปัตย์ติดเครื่องเอกซเรย์งบประมาณเป็ดง่อย ฟื้นตำนานฝ่ายค้านอาชีพ

สุดท้ายกลายเป็น “งบเป็ดง่อย”เป็นวลีที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สะท้อนภาพรวมร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ๒๕๖๗ วงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท ในวาระแรก หลังจากอาศัยวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ๔ วันเต็ม ทุ่มเทต่อจิ๊กซอว์จนเจอภาพ “งบเป็ดง่อย”โดยเริ่มจากงบประมาณปี ๖๗ เดิมผ่าน คณะรัฐมนตรีรัฐบาลที่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดช่วงเดือน มีนาคม๖๖ แต่รัฐบาลนี้เข้ามาไม่ได้ใช้ร่างเดิม มารื้อใหม่ทำใหม่ แต่รื้อเสร็จแล้วไม่มีอะไรใหม่ไม่ดีขึ้นไปกว่าเดิม โดยเฉพาะรัฐบาลพยายามย้ำว่าเศรษฐกิจวิกฤติ งบประมาณที่จัดทำต้องแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจได้ สุดท้ายไม่เป็นเช่นนั้น จนร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณเข้าสู่สภาฯ ๓ มกราคม๖๗ ใช้เวลา ๙ เดือนกว่าเหลือเวลาใช้งบฯ ปี ๖๗ อีกแค่ ๕ เดือนเพราะอยู่ในขั้นตอนของสภาฯ ๑๐๕ วัน ก่อนส่งไปวุฒิสภา กว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ก็เดือน พฤษภาคม๖๗ และใช้ได้ถึง ๓๐ กันยายน๖๗ ถึงได้ชี้ให้เห็นว่าปกติงบฯ ๑ ปี ใช้ ๑๒ เดือน แต่เหลือแค่ ๕ เดือนคิดเป็น ๔๐% ของเวลาที่มีอยู่โดยปกติยิ่งเมื่อดูย้อนหลัง ๕ ปีเฉลี่ยโดยประมาณ ประสิทธิภาพการใช้งบฯ ลงทุนที่เป็น “หัวใจกระตุ้นเศรษฐกิจ” ตามที่รัฐบาลต้องการ ปรากฏว่าประสิทธิภาพการใช้งบประมาณอยู่ที่ ๗๐% เห็นได้จากงบฯ เหลื่อมปี คือใช้ไม่ทัน ขอเอาไปใช้ปีต่อไปประมาณ ๓๐%“เหลือเวลาใช้งบฯ แค่ ๔๐% ย่อมกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ตามเป้าเต็ม ๑๐๐% ประสิทธิภาพใช้งบประมาณลงทุนเหลือเพียง ๗๐%”tt ttรัฐบาลถูกตั้งข้อสังเกตช่วงที่ใช้งบประมาณ ปี ๖๖ ไปพลางก่อน เป็นสถานการณ์ที่ซ้ำเติมเศรษฐกิจของประเทศ นายจุรินทร์ บอกว่า ใช้ได้เฉพาะงบฯ เหลื่อมปี งบฯ ประจำ ประเภทเงินเดือนข้าราชการ บำนาญประมาณนั้น แต่งบฯ ลงทุนใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยังเกิดไม่ได้ ต้องรอ พระราชบัญญัติงบประมาณบังคับใช้เดือน พฤษภาคม๖๗ ก่อน“พอรื้อกลับมาทำใหม่ เป็นงบขาดดุลเหมือนเดิม ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล แต่รัฐบาลต้องพยายามเดินหน้าไปสู่การจัดงบสมดุลต่อไปในอนาคตที่ฉายภาพให้เห็นต้องการบอกประชาชนว่า รัฐบาลยังต้องจัดงบขาดดุลไปจนถึงปี ๒๕๗๐ เพราะรัฐบาลไปอนุมัติแผนการคลัง เป็นมติ ครม. ๑๓ กันยายน๖๖ ว่าสุดท้ายงบจะขาดดุลตลอดอายุรัฐบาลแถมรัฐบาลกู้เงินมากกว่าเดิม มากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วทำไว้ จาก ๕.๙๓ แสนล้านบาท กลายเป็น ๖.๙๓ แสนล้านบาท งบฯ รื้อทำใหม่กู้เพิ่มอีก ๑ แสนล้านบาท”ตามปีปฏิทิน ๖๗ รัฐบาลคงก่อหนี้มากเป็นพิเศษอย่างน้อยต้องตั้งงบฯ ชดใช้หนี้งบขาดดุล ๖.๙๓ แสนล้านบาท ยังมีหนี้อื่นที่ปรากฏในร่าง พระราชบัญญัติงบฯ รวมกว่า ๗ แสนล้านบาทรวมถึง การกู้เงินดิจิทัลวอลเล็ตอีก ๕ แสนล้านบาทตาม พระราชบัญญัติเงินกู้และยังจะต้องจ่ายให้กับชาวนาอีก เฉพาะแค่นี้ร่วม ๑.๓๕ ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณที่ชดใช้หนี้ต่อไปในอนาคต ซึ่งยังไม่รวมอื่นๆ ที่ยังไม่รู้ว่าอะไรที่จะเกิดขึ้นอีกแต่รัฐบาลมีประสิทธิภาพใช้หนี้แค่ปีละ ๑.๒ แสนล้านบาทเฉพาะเงินต้น ไม่พูดถึงดอกเบี้ยเดี๋ยวสับสนอลหม่าน เอา ๑.๓๕ ล้านล้านบาทตั้ง หารด้วย ๑.๒ แสนล้านบาท ตัวเลขออกมา ๑๑.๔ ปี ตามข้อเท็จจริงรัฐบาลอยู่ได้ ๔ ปีแต่รัฐบาลพยายามชี้ให้เห็นว่า ภายใน ๔ ปี เศรษฐกิจจะฟื้นเหมือนปี ๒๕๔๔ สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทยนายจุรินทร์ บอกว่า งบฯ ปี ๖๗ ปีเดียวฟื้น มันไม่ง่าย เพราะเป็นงบเป็ดง่อย ถ้ารัฐบาลอยู่ ๔ ปี ต้องพิสูจน์กันต่อไปแม้มีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ก็มีนักวิชาการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลายหน่วยงานที่มีความเชื่อถือในระดับสูง ที่วิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศ ระบุชัดกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เฉพาะตอนเอาเงินไปแจก แล้วคนเอาไปซื้อของปกติเศรษฐกิจโตโดยธรรมชาติที่ประเมินไว้เติบโตประมาณ ๒.๗-๓.๕% ดิจิทัลวอลเล็ตใส่เข้าไปไม่มีทางไปถึง ๕% ตามที่สถาบันการเงินระดับโลก ธปท.วิเคราะห์นายกรัฐมนตรี (คุณเศรษฐา ทวีสิน) ระบุทำได้ปีละ ๕% ขอเอาใจช่วย แต่โดยสภาพทางเศรษฐกิจ งบประมาณ และอีกหลายส่วน ไม่ได้ง่ายอย่างที่นายกฯพูดรัฐบาลถูกวิจารณ์ถึงก้าวที่พลาดในการจัดทำงบฯ ปี ๖๗ ใหม่ เพื่อเกลี่ยเงินมาใส่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต สุดท้ายทำไม่ได้ตามเป้า นายจุรินทร์ บอกว่า นายกฯระบุจะใช้งบประมาณ และไม่กู้พอเอาเข้าจริงๆ ดิจิทัลวอลเล็ตในงบฯ ปี ๖๗ ไม่ได้ใส่ไว้สักบาท แต่ต้องกู้เพิ่มอีก ๑ แสนล้านบาทtt tt“เคยถาม ผู้อำนวยการสำนักงบ ประมาณ กลางที่ประชุม ครม. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าขอคำถามเดียวบวก ลบ คูณ หารแล้ว งบฯ ปี ๖๗ ที่รัฐบาลอนุมัติ เหลือเงินให้รัฐบาลชุดต่อมา เพื่อทำนโยบายใหม่ ขอตัวเลขกลมๆ เท่าไหร่ผู้อำนวยการสำนักงบฯ ตอบว่า ประมาณ ๒ แสนล้านบาท ซึ่งเงินก้อนนี้ไม่มีทางทำดิจิทัลวอลเล็ตได้พอ ถ้าไปใช้ทำดิจิทัลวอลเล็ตหมด ๒ แสนล้านบาท ก็ไม่เหลืองบฯ ลงทุนอย่างอื่นเลยพอรื้อทำงบฯ ใหม่ต้องกู้เพิ่ม ๑ แสนล้านบาท เท่ากับมีงบฯ ลงทุนรวม ๓ แสนล้านบาท ถามกลางที่ประชุมสภาฯ ว่า ไปแบ่งเค้กกันอย่างไร ๓ แสนล้านบาท ยังไม่มีคำตอบว่าจะเอาไปทำอะไร”ฉะนั้นเป็นหน้าที่ฝ่ายค้าน และพรรค ปชป. ต้องติดตามต่อถึงการใช้งบฯ โปร่งใส สุจริตหรือไม่งบฯ ลงทุนที่กู้เพิ่มมาอีก ๑ แสนล้านบาท รวมของเดิมที่มีอีก ๒ แสนล้านบาท ถูกสังคมจับตาดูเป็นพิเศษว่านักการเมืองจะถอนทุน เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาถูกตั้งข้อสังเกตใช้เงินซื้อเสียงมหาศาล นายจุรินทร์ บอกว่า ตรงนี้เป็นสิ่งที่เราพยายามบอกบริหารราชการแผ่นดิน ต้องซื่อสัตย์สุจริตเพราะถ้ามีการโกงมาก สุดท้ายต้องไปถอนทุนคืน เพื่อเอาเงินไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เชื่อว่าประชาชนไม่เห็นดีเห็นงามด้วยหากจำเป็นเห็นว่ามีการทุจริต ประพฤติมิชอบ หรือกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบตามกลไกทั้งตั้งกระทู้ถาม ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล โดยไม่มีการลงมติ หรือยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เตรียมชำแหละร่าง พระราชบัญญัติเงินกู้ ๕ แสนล้านบาท หากผ่านด่านกฤษฎีกา ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณ ปี ๖๘ ที่เตรียมจ่อเข้าสภาฯ นายจุรินทร์ บอกว่า อีกไม่เท่าไหร่งบประมาณ ปี ๖๘ ก็เข้าสภาฯ อีกแล้วtt ttประเด็นที่เกิดขึ้น คืองบฯ ปี ๖๗ และงบฯ ปี ๖๘ จะมากองรวมกันเยอะ เพราะงบฯ ปี ๖๗ วงเงิน ๓.๔๘ ล้านล้านบาท งบฯ ปี ๖๘ วงเงินเท่าไหร่ ยังไม่ทราบ แต่พองบฯ ปี ๖๗ใช้ไม่ทันก็กันงบเหลื่อมปี ไปใช้ในปีงบฯ ๖๘ ก็ซ้ำซ้อนงบฯไปกองอยู่ตรงนั้นเยอะในช่วงเวลานั้น มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน และใช้งบฯ ตามเกณฑ์ กติกาด้วยความ โปร่งใสหรือไม่ ต้องรอดูภาพรวมในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ พอใจแค่ไหน นายจุรินทร์ บอกว่า ประชาชนต้องเป็นผู้ประเมินที่สำคัญพรรค ปชป.ทำหน้าที่เต็มที่ ผมคนหนึ่งทำหน้าที่สุดความสามารถ ซื่อสัตย์ต่อการทำหน้าที่ มีหน้าที่อะไรก็ทำหน้าที่นั้นเต็มที่ หลายเรื่องแนะนำในเชิงสร้างสรรค์หากไม่ซื่อสัตย์ต่อการทำหน้าที่ตอนที่เราเป็นฝ่ายค้าน ประชาชนจะพึ่งใครมาตรวจสอบถ่วงดุลแทนประชาชนถ้า สส.ฝ่ายค้านไม่ทำหน้าที่ สส.ใหม่ของพรรค ปชป.เที่ยวนี้ ได้ติดตาม และอยู่ด้วยใกล้ชิด ประชุมร่วมกันก็เห็นว่าทุกคนตั้งใจทำหน้าที่อย่างเต็มที่ หลายคนทำหน้าที่ได้ดีสมบูรณ์พอสมควรยังมีประเด็นร้อนอะไรที่รัฐบาลต้องระมัดระวัง นายจุรินทร์ บอกว่า รัฐบาลต้องระมัดระวังทุกเรื่อง…ต้องใช้งบประมาณแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ถูกต้อง โปร่งใสถ้าทุจริตรัฐบาลต้องรับผิดชอบ เหมือนบางยุค รมต.-นายกฯ ติดคุก.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม