อนาคตดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท จะเป็นอย่างไรต่อไป จะสามารถเดินหน้าในเดือน พ.ค. ปี ๒๕๖๗ ได้หรือไม่ ภายหลังคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งคำตอบในแง่กฎหมายให้รัฐบาลแล้ว ในเรื่องการออก พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท จะต้องยึดตามเงื่อนไขมาตรา ๕๓ ของกฎหมายวินัยการเงินการคลัง และไม่มีคำว่าไฟเขียวแต่อย่างใดจากคำชี้แจงล่าสุดของ “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมกับบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องลับ อาจจะต้องให้กระทรวงการคลังชี้แจงในรายละเอียด ไม่มีคำว่าไฟเขียว แต่เงื่อนไขตามกฎหมายในมาตรา ๕๓ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ.๒๕๖๑ จะบอกว่าเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขวิกฤติของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาดูว่าเข้าเงื่อนไขนั้นหรือไม่ tt ttในมุมมองของ “ด็อกเตอร์นณริฏ พิศลยบุตร” นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ชี้ว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตกำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของการออก พระราชบัญญัติเงินกู้ เพื่อจะหาแหล่งทุนนำเงินมาใช้ในการดำเนินโครงการ เป็นเรื่องของสภาในการพิจารณา ซึ่งทางรัฐบาลในฐานะผู้ผลักดันจะต้องชี้แจงให้ชัดในเรื่องความจำเป็น และเรื่องแหล่งเงินว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลต้องดำเนินการ“รัฐบาลต้องตรวจสอบรายละเอียดให้เป็นไปตามเงื่อนไข พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง จะต้องหาแหล่งเงินให้ได้ ต้องยึดตามกฎระเบียบของกฎหมาย ถ้าแน่นอนแล้วจากการที่รัฐบาลมีมูลเหตุที่แน่ชัด สามารถบอกที่มาของแหล่งเงินที่แน่ชัดได้ ก็ไม่มีปัญหา หากทำอะไรสุ่มเสี่ยงไปก็ไม่ได้ เพราะ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง เป็นเรื่องของเสถียรภาพการเงินการคลัง เป็นระเบียบของประเทศ จะต้องระวังเป็นอย่างมาก ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องผ่านไป”tt ttเพราะฉะนั้นการออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ต้องสอดคล้องสอดรับ ไม่สามารถหย่อนกฎให้สามารถนำเงินออกมาใช้ได้ ต้องผ่านการพิจารณาออก พระราชบัญญัติเงินกู้ ตาม พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง และต้องผ่านสภาในฐานะตัวแทนประชาชน ทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล อย่างน้อยในเรื่องของกระบวนการจะต้องถูกต้อง เป็นการผลักดันภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อยากให้ประชาชนได้รับรู้รับฟังการดีเบตในสภา เป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาของตัวแทนประชาชนจะต้องทำให้ดี หากประชาชนมองว่าทำไม่ดี ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ไม่ต้องเลือกtt tt“ไทม์ไลน์โครงการดิจิทัลวอลเล็ต สามารถวางไว้ได้จะเดินหน้าในเดือนพ.ค. แต่ในแง่ความเป็นจริงอยู่ที่เงื่อนไขจะทำได้แค่ไหน อยู่ที่มือของคุณเองจะทำสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่มือของคุณแล้ว เพราะที่ผ่านมาบรรดานักวิชาการทั้งหลายให้คำแนะนำกันไปแล้ว ก็อยู่ที่สภาจะให้ผ่านหรือไม่”.
