Sunday, 29 December 2024

วิเคราะห์การเมือง : จุดความร้อนโผล่ ธปท.

ตั้งแต่ยุคโบราณนานมา คนไทยรู้จักแค่ ๓ ฤดู ร้อน ฝน หนาว ล่าสุดเพิ่งได้ยินกรมควบคุมมลพิษป่าวประกาศชัดๆ ประเทศไทยเข้าสู่ “ฤดูฝุ่น” อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายนปีเก่าถึงมีนาคมปีใหม่ ๒๕๖๗บรรจุเพิ่มอีกหนึ่งฤดูกาลอย่างถาวรนับจากนี้ต่อไปส่งสัญญาณเป็นช่วงที่ต้องเตรียมตั้งรับ ดำเนินมาตรการอย่างจริงจังและเข้มข้น ตามสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM ๒.๕ ที่รุนแรงขึ้น ขณะที่อัตราการระบายอากาศต่ำมาก หากไม่ควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นในเมืองจะส่งผลให้ฝุ่นมรณะ PM ๒.๕ สะสมเพิ่มขึ้นใน กทม.และปริมณฑลยึดตามตัวเลขแบบเรียลไทม์ สำรวจผ่านดาวเทียมของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA พื้นที่สีส้มปกคลุมเกือบทั้ง ๕๐ เขตเมืองกรุงค่าฝุ่นเกินมาตรฐานแทบทุกวัน ขีดอันตรายตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ไม่ต่างจากหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด และเริ่มมีจุดสีแดงโผล่โชว์ให้เห็นความร้อนจากการเผาป่าในภาคตะวันตก นำร่องพื้นที่อ่อนไหวภาคเหนือฝุ่นพิษ PM ๒.๕ มาตามนัด ตรงเป๊ะตามฤดูกาลtt ttแพทองธาร ชินวัตรโจทย์ยากที่ “รู้ข้อสอบล่วงหน้า” มีแบบฝึกหัดจากรัฐบาลก่อนให้ดูเป็นตัวอย่าง มีเวลาเตรียมตั้งรับเหลือเฟือ นี่คือการทดสอบเชิงบริหารของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลังมันเป็นไฟต์บังคับเลี่ยงไม่ได้ อย่างน้อยผู้นำรัฐบาลต้องเทกแอ็กชันโชว์การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ถ้าปล่อยฝุ่นเข้าปอด เคืองตา อันตรายต่อสุขภาพประชาชนมันจะอันตรายต่อสุขภาพทางการเมืองของรัฐบาลยิ่งในจังหวะเกมบริหารยังติดๆขัดๆ ฟอร์มรัฐบาลผสมสูตรพิสดาร ไม่ไหลลื่นอย่างที่ยี่ห้อเพื่อไทยเคลมเป็นมือหนึ่งการบริหารเศรษฐกิจติดด่านสกัดทุจริต เครื่อง “สแกนโกง” ที่เข้มข้นกว่าปกติขบวนการก้างขวางคอไอ้เข้ยังทำงานกันสุดกำลัง เพราะไม่ไว้วางใจยี่ห้อของทีม “นายใหญ่” จากผลงานการผลาญงบประมาณโครงการรับจำนำข้าวที่ยังตามหลอนหนี้ก้อนมหาศาลไม่รู้เมื่อไหร่จะชดใช้กันหมดวิบากกรรมเก่าของเพื่อไทย คือ “เดจาวู” ที่เป็นเงาฉุดรั้ง ทำให้นายเศรษฐาหยิบจับเงินแผ่นดินได้ไม่เต็มไม้เต็มมือ ผลคือเกิดสถานการณ์ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ในจังหวะที่ผู้นำต้องดิ้นหนีภาพประทับ “เซลส์แมนสแตนด์ชิน” ลบเสียงปรามาส “นายกฯส้มหล่น”แค่คั่นเวลารอ “ตัวจริง” อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตรแน่นอนเมื่อโอกาสวาสนามาเกยแล้ว อย่างน้อยๆนายเศรษฐา ก็ขึ้นทำเนียบนายกรัฐมนตรี คนที่ ๓๐ ของประเทศไทย คงต้องการ สร้างเกียรติประวัติบันทึกไว้ มากกว่าที่ถูกตีราคาค่างวดโดยเฉพาะการรักษาเครดิต หนีภาพของ “การผิดคำพูด”tt ttเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิธงของนายกฯตัวสูงๆจึงอยู่ที่โครงการเทกระจาด “ดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท” ที่ต้องทำตามประกาศบนเวทีหาเสียง เบี้ยว ไม่ได้ขืนไม่ทำ มันจะทำให้เสียเครดิต ภาพติดตัวไปตลอดตามรูปการณ์เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลเปิดสัญญาณไฟเขียว แต่แนบท้ายให้เสนอเป็นร่าง พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท เพื่อให้รัฐสภาช่วยประทับตรา เพิ่มความปลอดภัยเทศกาลเทกระจาดส่อแววล่าช้า แต่ก็เบี้ยวไม่ได้และก็เหมือนจะรวบรวมความกล้าท้าวัดดวง ตามแนวโน้มสถานการณ์แบบที่รัฐบาลไล่บล็อกฝุ่น PM ๒.๕ สกัดแหล่งต้นตอทำให้เกิดฝุ่นในเมือง เฝ้าระวังจุดแดงจากไฟป่าแต่ล่าสุดเรดาร์ตรวจจับความร้อน พบจุดแดงข้างกำแพงแบงก์ชาติแถวบางขุนพรหมตามชนวนควันที่มีขบวนการ “จุดไฟ” เผาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แบบที่ “นักเขียนคนดัง” พิธีกรขาประจำเวทีผู้นำโชว์วิชัน โพสต์กระแทกแบงก์ชาติ อัดนโยบายขึ้นดอกเบี้ย ปล่อยให้แบงก์พาณิชย์โกยกำไรอู้ฟู่ต่อด้วย “โทรโข่งรัฐบาล” ออกมาอวย จังหวะรับส่งลูกกันเข้าขา แล้วก็เป็นตัวของนายเศรษฐาที่โพสต์อัดแบงก์ชาติขึ้นอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับภาวะเงินเฟ้อจุดความร้อนสีแดงโผล่ที่กำแพงแบงก์ชาติ เป้าถล่มนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.กลายเป็นสงครามเอาคืนตัวปัดแข้งปัดขา ยื้อเทกระจาดดิจิทัล วอลเล็ตฯ.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม