Thursday, 19 December 2024

รัฐบาล เตรียมเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็น "โฉนดเพื่อการเกษตร" สร้างเศรษฐกิจยั่งยืน

เริ่มแล้ว! รัฐบาล เตรียมเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” เปิด “ศูนย์ประสานและจัดการเรื่องร้องทุกข์” Kick-off ๑๕ มกราคมนี้ ขณะ “ชนินทร์” มั่นใจ นโยบายที่ดินทำกิน ๕๐ ล้านไร่ สร้างเศรษฐกิจ สร้างอาชีพอย่างยั่งยืนtt ttวันที่ ๑๐ ม.ค. นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ผ่านนโยบายที่ดินทำกิน ๕๐ ล้านไร่ ว่า รัฐบาลมีเป้าหมายในการกระจายกรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนจำนวน ๕๐ ล้านไร่ เพื่อเป็นต้นทุนในการประกอบอาชีพ และเป็นหลักทรัพย์ในการเข้าถึงเงินทุน ให้ประชาชนมีโอกาสในการลงทุนประกอบธุรกิจ หรือทำเกษตรกรรมในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืนและภาคภูมิใจ โดยที่ผ่านมา ได้เริ่มผลักดันนโยบายนี้ไปแล้วผ่านที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ที่มี รองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธาน ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่บูรณาการการทำงานเรื่องที่ดินในทุกๆ กระทรวงเข้าด้วยกันtt ttนายชนินทร์ กล่าวว่า การจะบรรลุเป้าหมายนโยบายที่ดินทำกิน ๕๐ ล้านไร่ ของพรรคเพื่อไทยนั้น จำเป็นต้องทำงานเชิงนโยบายกับที่ดินของ ๓ กระทรวงหลัก ได้แก่ ที่ดิน ส.ป.ก. ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ที่ดิน สค.๑ ของกระทรวงมหาดไทย และที่ดินป่าไม้ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้มีการศึกษาและผลักดันการแก้ไขกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ ๑๕ มกราคมนี้ จะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่รองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย จะเป็นประธานการเปิดกิจกรรมหลัก ๒ กิจกรรมคือ การ Kick-off เปลี่ยนเอกสาร ส.ป.ก. เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ที่จัดโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกิจกรรมการเปิด “ศูนย์ประสานและจัดการเรื่องราวร้องทุกข์” ของสำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ที่จะเป็นอีกกลไกสำคัญในการเร่งแก้ปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินให้พี่น้องประชาชนอย่างตรงจุดและรวดเร็วtt tt”รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาไม่มีที่ดินทำกิน และพร้อมจะช่วยสนับสนุนให้กรรมสิทธิ์ที่ดินในรูปแบบต่างๆ มีศักยภาพในการใช้เป็นต้นทุนในการทำมาหากินมากขึ้น แต่ยังดำรงไว้ซึ่งการรักษาพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไปพร้อมๆ กัน โดยในเบื้องต้นจะเร่งขับเคลื่อนการแก้กฎหมายในระดับกระทรวงต่างๆ ที่ทำได้ก่อน และจะมีการผลักดันการแก้ไขกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติในสภาต่อไป” นายชนินทร์ กล่าว…tt tt