Thursday, 19 December 2024

รัฐบาลลุยไฟแจกเงินดิจิทัล

เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้อยู่แล้วสำหรับคำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีที่รัฐบาลสอบถามเกี่ยวกับการออกกฎหมายกู้เงินเพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงินคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท คือเป็นการตอบในหลักการของข้อกฎหมาย ไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้าน แค่ให้คำปรึกษาว่าถ้ารัฐบาลจะกู้เงินมาทำโครงการนี้ จะต้องทำอย่างไรบ้าง และมีเงื่อนไขข้อห้ามอะไรในกฎหมายคุณปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า กฤษฎีกาได้ส่งคำตอบเรื่องการออก พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาทให้รัฐบาลแล้วส่วนรายละเอียดต้องไปเข้าในคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กฤษฎีกาตอบเป็นข้อกฎหมาย อธิบายถึง มาตรา ๕๓ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ เงื่อนไขในนั้นบอกว่า เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนต้องแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขวิกฤติของประเทศ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาดูว่าเข้าเงื่อนไขนั้นหรือไม่ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลสามารถใช้อ้างอิงได้หรือไม่ คุณปกรณ์ตอบว่า สามารถใช้อ้างอิงได้ เพราะเรายืนตาม มาตรา ๕๓ มาตรา ๖ มาตรา ๗ และมาตรา ๙ ตอบอย่างนั้นเป๊ะ ถ้าทำตามกฤษฎีกา ปลอดภัยแน่นอน เมื่อถามว่าการที่ระบุว่าอยู่ในช่วงภาวะวิกฤติ แต่จะมีการตราเป็น พ.ร.บ. จะย้อนแย้งกันหรือไม่ เลขากฤษฎีกาตอบว่า ไม่เป็นอะไรเลย พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐเพียงแต่บอกว่าให้กู้ได้โดยตราเป็นกฎหมาย ทีนี้กฎหมายก็จะมีทั้ง พ.ร.บ. และ พ.ร.ก. เดิมที่ผ่านมาเป็น พ.ร.ก.ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่เป็น พระราชบัญญัติก็ทำได้ ๓ วาระรวดก็เคยมีมาแล้ว ไม่ได้ยากอะไรจนถึงวันนี้รัฐบาลยังไม่สามารถชี้แจงให้สังคมเห็นภาพได้ชัดว่า สถานการณ์ประเทศไทยถือว่าอยู่ในภาวะวิกฤติจำเป็นเร่งด่วน ที่จะต้องกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ และผลที่ได้จะคุ้มค่ากับเงินกู้ ๕ แสนล้านบาทหรือไม่คำว่าวิกฤติจำเป็นเร่งด่วน น่าจะต้องถึงขั้น กิจกรรมเศรษฐกิจสะดุดทรุดลงอย่างหนักและต่อเนื่อง เช่น ประชาชนรายได้ลดลง ผู้คนตกงาน ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆตกต่ำ หรือเกิดภาวะวิกฤติแบบ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติโควิด แต่ที่ผ่านมารัฐบาลมักจะพูดทำนองว่าเศรษฐกิจขยายต่ำ แม้จะเติบโต ๒% กว่า แต่เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วถือว่าเราโตช้า จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นส่วนเรื่องความคุ้มค่า รัฐบาลไม่มีข้อมูลการศึกษาเชิงลึกมาแสดงต่อสาธารณะ ประชาชนไม่รู้เลยว่าถ้าร่วมแบกหนี้ ๕ แสนล้านบาทแล้ว ปีนี้จะมีรายได้เพิ่มเท่าไหร่ ส่งผลถึงปีต่อๆไปให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้นแค่ไหน เศรษฐกิจประเทศจะเติบโตขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ หว่านเงินลงไปเศรษฐกิจคึกคักแน่ แต่จะยั่งยืนหรือไม่ และถ้าเอาเงินก้อนนี้ไปทำโครงการอื่น จะคุ้มค่ามากกว่าไหมอีกจุดหนึ่งที่ผมอยากให้รัฐบาลระมัดระวังคือ ข้อสังเกตของกฤษฎีกาที่ให้คำนึงตาม มาตรา ๙ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ซึ่งวรรคท้ายของมาตราดังกล่าวระบุว่า คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาวก็ต้องตามลุ้นกันดูว่ารัฐบาลจะกล้าลุยไฟต่อหรือไม่ แต่จากคำให้สัมภาษณ์หลังการประชุม คณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ยังยืนยันจะเดินหน้าต่อ โดยนายกฯกล่าวว่า คำตอบของกฤษฎีกาที่ส่งมาคงต้องเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ตนเป็นประธานก่อน ซึ่งมีหลายฝ่ายร่วมอยู่ อยากจะฟังความเห็นของทุกฝ่าย ต้องให้ความสำคัญกับทุกเสียงผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่าเรื่องนี้เดินไปต่อได้ใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า ไปต่อได้แน่นอน ชัดเจนครับ และต้องขอประชุมคณะกรรมการดิจิทัลก่อน แล้วจะตอบเนื้อหาทีหลัง เมื่อถามว่าจะทันเดือน พฤษภาคมหรือไม่ นายกฯเศรษฐากล่าวว่า ณ เวลานี้ยังยืนยันตามไทม์ไลน์เดิม แต่ต้องขอประชุมก่อน ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะอะไรอีกหรือไม่ และยืนยันถ้าจะออกกฎหมายก็จะออกเป็น พระราชบัญญัติงานนี้นอกจากต้องประเมินความคุ้มค่าของโครงการแล้ว ผมว่ารัฐบาลควรประเมินความคุ้มค่าของอายุขัยรัฐบาลด้วย. ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม

Related posts
“อ.ปริญญา” จี้ นายกฯ-รัฐบาล นำตัว “พล.อ.พิศาล” มาดำเนินคดีตากใบก่อนหมดอายุความ
รัฐบาล จัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติ ร.๑๐ เนื่องในวันฉัตรมงคล
"ประเสริฐ" รัฐมนตรีว่าการดีอี ย้ำ ความร่วมมือรัฐ-เอกชน ยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
“ชาดา” ลุยปราบผู้มีอิทธิพล-ยาเสพติด ล่าสุดบุกจับสาวเขมร ยึดยาบ้า ๕.๓ ล้านเม็ด
อนุรักษ์คัมภีร์ใบลาน ๒ รัชกาลสำเร็จ เก่าแก่ถึง ๑๗๐ ปี สมัย ร.๔ ถอดเนื้อหาเข้าระบบดิจิทัล
ยอดโควิด-๑๙ ยังเพิ่มหลังสงกรานต์ รัฐบาลห่วงประชาชน แนะสวมหน้ากากในที่แออัด