“ชัยธวัช ตุลาธน” กระบวนการยุติธรรมรัฐบาลนี้ ๒ มาตรฐาน คนชั้น ๑๔ ได้อภิสิทธิ์รักษาตัวนอกเรือนจำ ทำเพื่อไทยประท้วงวุ่น เจอ “วิโรจน์” โต้กลับ แตะไม่ได้จะเอาข้าวผัด โอเลี้ยงไปฝาก ด้าน ภูมิธรรม ยัน เป็นกฎหมายของรัฐบาลที่แล้ว วอนใจเย็นๆ แพทย์ก็ยืนยันแล้วว่าป่วยจริงวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗ ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ ๗ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา เพื่อถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงเรื่องคำถามประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๖๐ โดยไม่แตะหมวด ๑ และ หมวด ๒ และประเด็นการคุกคามทางการเมืองโดยระหว่างที่ นายชัยธวัช กล่าวว่าการคุกคามทางเมืองในรัฐบาลชุดนี้ไม่ลดลงเมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดก่อน นักศึกษา ประชาชน ที่เป็นเป้าหมายของฝ่ายความมั่นคง ที่ออกมาแสดงออกทางการเมืองในหลายปีที่ผ่านมาก็ยังตกเป็นเป้าหมายเหมือนเดิม ทั้งการถูกกดดันถึงที่พัก ที่ทำงาน และถูกสอดแนมในรูปแบบต่างๆ หรือแม้แต่บุคคลสำคัญ หรือนายกฯไปลงพื้นที่ต่างๆ ก็ยังถูกเฝ้าระวัง หรือขอถูกให้ออกจากพื้นที่ กีดกันการร่วมกิจกรรมต่างๆ ยังเกิดต่อเนื่อง “ในปี ๖๖ นี้ มีประชาชนถูกคุกคามการเมือง ไม่น้อยกว่า ๒๐๓ กรณี เป็นกรณีที่เกิดขึ้นหลังจากมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ๗๐ กรณี ไม่เปลี่ยนแปลง ซ้ำร้ายความรู้ถึงกระบวนการยุติธรรมแบบ ๒ มาตรฐาน ยังรุนแรงมากขึ้น จากกรณีที่เรารู้กันดี มีบุคคลที่ได้รับอภิสิทธิ์ในการรักษาตัวนอกเรือนจำ บนชั้น ๑๔ ของรพ.ตำรวจ เทียบเคียงกับนักโทษอื่นๆแล้ว จะทราบว่ายากมากที่เราจะได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม หลายกรณีต้องอาการหนักจริงๆ” นายชัยธวัช กล่าวtt ttทำให้นายชัยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่ากระทู้สดด้วยวาจาเกินเวลา แต่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า วินิจฉัยว่าผู้อภิปรายยังอยู่ในเวลา แต่อาจจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอภิปรายเกินมา ๑-๒ นาที ก็ต้องมีการผ่อนผันให้ ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ เพราะประชาชนกำลังติดตามจากนั้น นายชัยธวัช ได้อภิปรายต่อว่า รัฐบาลต้องสร้างความเท่าเทียมในกระบวนการยุติธรรม เพราะตอนนี้มีผู้ได้รับสิทธิไปรักษานอกเรือนจำเกิน ๑๒๐ วัน มี ๓ คน นายชัยวัฒนา จึงยกมือประท้วงต่อว่า ผู้นำฝ่ายค้านยังลามไปประเด็นอื่น ทำให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า ในเมื่อประธานวินิจฉัยแล้ว ต้องถือว่าให้เป็นที่สุด “ยกมือขึ้น ยกมือลง ไม่จบไม่สิ้น ทำไมครับ ชั้น ๑๔ มันแตะไม่ได้หรือไงครับ ผมจะเอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงไปฝาก”tt ttแต่นายชัยวัฒนา ยังคงประท้วงต่อว่ายังเลอะเทอะอยู่ และการประชุมครั้งที่แล้ว นายวิโรจน์ ก็โพล่งคำว่า “สันดาน” กลางที่ประชุมสภา ยังไม่ประท้วงเลย จากนั้นนายวิโรจน์ ก็ประท้วงต่อว่า หากยังมีการยกมือขึ้นยกมือลงไม่สิ้นสุด ไอ้คำนั้นจะสะท้อนเข้าตัวท่านเอง แต่นายชัยวัฒนา ก็แย้งว่า หากนายชัยธวัช ยังอภิปรายเรื่องนี้อีกก็จะประท้วงอีก เพราะมันหมดเวลาจริงๆ “เลอะเทอะ”tt ttนายวันมูหะมัดนอร์ จึงวินิจฉัยว่า ให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบกระทู้ แต่นายวิโรจน์ ประท้วงว่า นายชัยธวัช ยังตั้งคำถามไม่จบ และขอให้นายชัยวัฒนา ถอนคำพูดคำว่า “เลอะเทอะ” แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ให้นายภูมิธรรม ตอบคำถามผู้อภิปรายต่อtt ttโดยนายภูมิธรรม กล่าวชี้แจงว่า ยืนยันรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการไปคุกคาม หรือทำให้หวาดกลัว หากมีอะไรที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม กระบวนการยุติธรรมควบคุมอยู่แล้ว โดยประเด็นข้อขัดแย้งมาจากประเด็นการเมือง เมื่อมีกฎหมาย ทุกคนก็ต้องเคารพกฎหมาย เพราะหากทุกฝ่ายไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นเรื่องผิด แม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ลำบากใจ และอาจโดนม.๑๕๗ ได้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยปฏิเสธ หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายไม่ว่าจะฝ่ายไหน ส่วนเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียมและพูดถึงเรื่องชั้น ๑๔ นั้น ตนเองมองว่า นายชัยธวัช ไม่เข้าใจรายละเอียดในกฎหมายที่ชัดเจน เพราะตนเองคิดว่ากฎหมายทำให้เกิดความเท่าเทียม อีกทั้งกฎหมายฉบับนี้ยังไม่ได้เกิดในสมัยรัฐบาลเพื่อไทย เพราะเกิดมาจากรัฐบาลที่แล้วด้วยซ้ำ เนื่องจากคุกมันล้น คนอยู่ข้างในมันลำบาก เขาจึงพยายามเคลียร์เรื่องนี้ จึงมีกฎหมายให้คนที่เจ็บป่วย คนที่ปฏิบัติตัวดีไปใช้ชีวิตด้านนอกได้ ถ้าเข้าใจตรงนี้ ก็จะทราบว่าพรรคเพื่อไทย พรรคร่วมไม่ได้สร้างมาเพื่อดูแลใคร เพราะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว เรื่องชั้น ๑๔ แพทย์ก็ยืนยันแล้วและการตัดสินใจของแพทย์เป็นที่สุด “ผมว่าใจกว้างๆ และใจเย็นๆ คิดให้ดี ถ้าเรายังจุกจิกกันเรื่องแบบนี้ ประเทศมันไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องใจเที่ยงธรรม แล้วดูว่าถ้าเรื่องนี้ตั้งใจจะออกกฎหมายมาเพื่อคนคนเดียวแล้วเพื่อแก้ปัญหาอันนี้อย่างเดียว อันนี้ไม่ถูกไม่มีใครเขาทำ สิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้เป็นกฎหมายเพื่อคนส่วนใหญ่ เป็นไปตามหลักสากลที่นานาประเทศเขายึดถือ และประเทศไทยกำลังทำ กำลังออกกฎระเบียบข้อบังคับ ซึ่งราชทัณฑ์จะต้องออก ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการทั้งสิ้น แล้วผู้ป่วยก็ป่วยตามหมอที่ได้บันทึก และได้มีคำวินิจฉัยที่ชัดเจน ถ้าท่านอยากอภิปราย ไม่ใช่อภิปรายรัฐบาล กระบวนการขณะนี้ท่านก็อภิปรายไม่ถูกต้อง เพราะมันไม่ใช่กระบวนการพิเศษที่ทำเฉพาะใคร เพราะฉะนั้นอยากกราบเรียนว่าความเท่าเทียมและความเสมอภาค เป็นหัวใจ เป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลนี้จะทำ แล้วมันไม่ได้จบหรือมีประเด็นแค่ชั้น ๑๔ มาอธิบายความไม่เหลื่อมล้ำ เพราะยังมีเรื่องอื่นอีก ทั้งการศึกษา ไม่ใช่มาวนอยู่ชั้น ๑๔ ขอความกรุณาเปิดกว้างและไปให้ไกล และไปให้ถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก” นายภูมิธรรม กล่าวtt tt
