Friday, 15 November 2024

การเมืองคนละน้ำ

บรรยากาศการเมืองหลัง รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน บริหารงานมาเกือบครบ ๔ เดือน หมดเวลาฮันนีมูนในเวลาอันรวดเร็ว การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติของ สว. ที่เข้าชื่อกัน ๑ ใน ๓ หรือ ๘๔ คนขึ้นไป เพื่อซักถามรัฐบาลถึงการทำงาน แม้จะอ้างว่าไม่ได้เป็นการซักฟอก หรือตั้งใจจะล้มรัฐบาล แต่ในยามที่รัฐบาลอยู่ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็ม เป็นเวลาที่ไล่เลี่ยกับที่รัฐบาลจะต้องนำร่าง พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้าน เข้าพิจารณาในสภาพอดีฟังเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหลายๆคน ไม่คัดค้าน โครงการแจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนเต็มร้อย ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน การที่จะเอาตัวเองไปแบกรับกับ นโยบายของพรรคเพื่อไทย ด้วย เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง ต้องเอากระดูกมาแขวนคอ บวกลบคูณหารดูแล้ว ถ้าไม่คุ้ม มีปัญหาข้อกฎหมายในอนาคต ถึงกับเป็นคดีความ ติดคุกติดตะราง คงไม่มีใครยกมือสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอนแล้ว การเมืองนอกสภา ที่พยายามจะพาดสายไฟ ไปที่ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจตลอดเวลา เพื่อให้เป็นชนวนทางการเมืองขึ้นมา ก็ไม่ธรรมดา ในสภาพแกนนำพรรครัฐบาลของ เพื่อไทย ที่มีเสียง สส.เป็นอันดับสอง ไม่ได้เป็นพรรคการเมืองเสียงข้างมากที่มีเสียงขาดพอที่จะทำอะไรได้อย่างสะดวกโยธินปรากฏการณ์ที่น่าสนใจกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยอมอดข้าวเย็น ลดน้ำหนักลงมา ๑๔ กิโลฯ เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง เดินได้สะดวกมากขึ้น มีกำลังใจที่จะทำงานการเมืองต่อ ไม่ยอมยกธงขาว ตามที่เป็นข่าวว่าจะสละตำแหน่ง สส.ให้ลูกพรรคแกนนำพลังประชารัฐชั้นหัวกะทิ ยังเข้าออกบ้านป่ารอยต่อ เป็นปกติ เลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พูดเป็นนัยทางการเมือง เราเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ผสมผสานกันจากหลายพรรคมาอยู่รวมกันเป็นพลังประชารัฐ ยังอยู่ในแนวทางเดิมในสถานะที่ พลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ พรรคพี่พรรคน้อง เมื่อรวมกันแล้วมี สส.ในมือ ๗๖ เสียงมากกว่า ภูมิใจไทย ที่มี ๗๑ เสียง พลังการต่อรองย่อมมากกว่าในขณะที่แกนนำคนสำคัญของรวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองต่อไป ทั้งในรวมไทยสร้างชาติ และการเมืองใหญ่คนที่มีบารมีไม่แพ้กันในขั้วอนุรักษ์ ไม่พ้น พล.อ.ประวิตรพรรคเพื่อไทย ในยามที่โครงสร้างยังไม่แข็งแรง องค์ประกอบยังไม่พอดี สัดส่วนระหว่างการเมืองเก่ากับการเมืองใหม่ยังไม่ลงตัวและยังมีเงื่อนไขทางการเมือง จากวิกฤติการเมืองในอดีตกลับมาให้ต้องรับมือ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นดาบสองคมหรือไม่ ในขณะที่พรรคคู่แข่งอย่าง ก้าวไกล มีความเข้มแข็งขึ้นทุกวันการเมืองระหว่างอนุรักษนิยมเก่า กับการเมืองอนุรักษนิยมใหม่ ก็ยังเป็นปลาคนละน้ำอยู่ดี วิกฤติการเมืองในอดีตก็ยังเป็นฝันร้ายของการเมืองในปัจจุบันอยู่วันยังค่ำ จะให้ลืมอดีตที่สู้กันมาแทบล้มแทบตาย ไม่ใช่เรื่องง่าย.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม