“สุชาติ” เดือด จ่อตั้งทีมกฎหมายฟ้องคนทำเสียชื่อ พูดกำกวมให้คนเชื่อเป็นอดีตรัฐมนตรีรีดหัวคิวแรงงานไทยไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ท้าเปิดเส้นทางการเงิน ลั่น หากไม่มีความผิดจะชดเชยอย่างไร พร้อมถาม กลบกระแสข่าวอะไรหรือไม่วันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๗ จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตั้งข้อกล่าวหา ๒ อดีตรัฐมนตรี และ ๒ บิ๊กข้าราชการ มีเอี่ยวเรียกเก็บค่าหัวคิวคนงานไทยไปทำงานเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์รวมกว่า ๓๖ ล้านบาท นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ในเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นในประเทศฟินแลนด์ หากดีเอสไอประสานมาก็พร้อมให้ข้อมูล ให้ความร่วมมือเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมข้อมูลต่างๆ ไว้แล้ว ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ามีการหักค่าหัวคิวในช่วงปี ๒๕๖๓-๒๕๖๖ ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งอธิบดี จะต้องรอดูผลการสอบสวนของเจ้าพนักงานว่าเรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไร ถ้าหากไม่จริงก็จะต้องมาดูในฝ่ายกฎหมายว่ามีอะไรที่จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปทางด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ดีเอสไอออกเอกสารว่าเป็นเรื่องเมื่อปี ๒๕๖๓ ส่วนตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๖๓ ขณะที่การส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ฟินแลนด์ จะส่งทุกเดือน มิถุนายน-กรกฎาคม และส่งมากว่า ๑๐ ปี จึงมีการส่งแรงงานไปฟินแลนด์ก่อนที่ตนจะรับตำแหน่ง ส่วนปี ๒๕๖๔-๒๕๖๕ มีการส่งแรงงานไปต่อเนื่อง สถานทูตฟินแลนด์จะกำหนดโควตาว่าต้องการแรงงานเท่าไร แล้วประสานมายังกระทรวงแรงงาน ทางกระทรวงแรงงานก็จะแจ้งไปยังนายจ้างที่มีการประสานกับทางเอกชนของฟินแลนด์อยู่แล้ว เพื่อจัดส่งกันเอง ซึ่งในส่วนของการคัดคนงาน การจัดส่งต่างๆ กระทรวงแรงงานไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าไปควบคุม เพียงแค่ออกกฎระเบียบว่าให้นายจ้างกับลูกจ้างมีการทำสัญญา มี Bank Guarantee (หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร) ว่าจะได้รับค่าตอบแทนจำนวนเท่าไร “เรื่องมันเกิดขึ้นเพราะมีแรงงานถูกส่งกลับประมาณ ๑๐-๒๐ คน และร้องเรียนไปยังสถานทูต ต่อมาก็มีประเด็นข้อหาค้ามนุษย์ ก็ต้องถามกลับว่า แล้วคน ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ คนที่เดินทางไปนั้น ทำไมถึงไม่ได้มีการร้องเรียนกระทรวงแรงงาน มีการเรียกลูกจ้างและนายจ้างมานั่งโต๊ะเจรจา และมีแบงก์การันตีแบบนี้ จะมาบอกว่าเป็นการค้ามนุษย์ได้อย่างไร องค์ประกอบเรื่องของการค้ามนุษย์ของฟินแลนด์กับของไทยแตกต่างกัน มีคนๆ หนึ่งซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของไทยถูกจับข้อหาค้ามนุษย์ มีการให้การซัดทอดข้าราชการหรือใครก็แล้วแต่ ซึ่งผมไม่รู้จักและไม่เคยไปยุ่งกับเขา ผมยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ ถ้า ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ตรวจสอบแล้วว่าผมไม่ได้มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ดีเอสไอจะชดเชยอย่างไรที่ทำให้ผมเสียหาย การที่ออกข่าวนี้มาเพราะต้องการกลบกระแสข่าวอะไรหรือไม่” นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังกล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ใครให้การอะไรไว้ หรือกล่าวหาอะไรไว้โดยไม่มีข้อมูลหลักฐานไม่ใช่ข้อเท็จจริง ตนจะฟ้องร้องทั้งหมด โดยได้ตั้งทีมกฎหมายพิจารณา เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนที่เป็นอดีตรัฐมนตรี หากตนเป็นรัฐมนตรียุติธรรม แล้วไปเอาเรื่องเก่ามากล่าวอ้างอดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมบ้างได้หรือไม่ ไปพูดให้ข่าวอดีตรัฐมนตรีแบบนี้จะให้ต่างชาติมองอย่างไร รัฐมนตรีไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ มันจะไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร หากบอกว่ามีเส้นทางการเงินก็เปิดเผยออกมาได้ หากมีการกล่าวอ้างถึงรัฐมนตรี หรือมีเส้นทางการเงินของใคร แต่ยืนยันว่าตนไม่เกี่ยวข้อง ต้องยืนยันมาว่ามีเส้นทางการเงินของใครและแจ้งคนนั้น ไม่ใช่ออกมาพูดกำกวมทำให้คนมองว่าเป็นตนเอง ที่กล่าวอ้างว่ามีค่าดำเนินการเก็บค่าหัวคิวรายละ ๓,๐๐๐ บาท ก็ต้องถามกลับว่า หากมีการเก็บจริงนายจ้างจะบอกหรือไม่ว่าเก็บไปให้ใคร คนไหน แล้วไปทำงานแบบถูกกฎหมายจะต้องมาจ่ายพวกนี้ด้วยหรือ.
“สุชาติ” เดือด ขู่ฟ้องทุกคนที่ทำเสียชื่อ ยัน ไม่เกี่ยวปมรีดหัวคิวแรงงานไทย
Related posts