ปัญหาเรื้อรังของบ้านเรา…คือคุณภาพอากาศย่ำแย่ลงทุกวันโดยเฉพาะช่วงฤดูฝุ่น (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ปริมาณฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ สูงเกินค่าเฉลี่ยหลายเท่าตัว ทำให้คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในรอบปี!!ตามปกติคนเราต้องหายใจ ๑๔ ครั้งต่อนาทีหรือต้องหายใจราว ๒๐,๐๐๐ ครั้งต่อวัน!!การสูดเอาฝุ่นพิษหมอกควันจำนวนมากเข้าไปในร่างกายไม่เว้น แต่ละวันจึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงนี่คือเหตุผลสำคัญที่รัฐบาล “นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน” ต้องเร่งผลักดัน “ร่าง พระราชบัญญัติอากาศสะอาด” ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบจาก คณะรัฐมนตรีขอแซงคิวเข้าไปพิจารณาในที่ประชุมสภาฯทันทีเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะหายใจเอาอากาศสะอาดปราศจากฝุ่นพิษเข้าไปในร่างกาย!!“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าร่าง พระราชบัญญัติอากาศสะอาดจะเป็นเครื่องมือใหม่ในการควบคุมการก่อมลพิษ ฝุ่นพิษจากการก่อสร้าง ฝุ่นควันจากการเผาพื้นที่เกษตร ฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ และฝุ่นควันจากสารปนเปื้อนที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรม ฯลฯอันเป็นแหล่งกำเนิดสำคัญให้เกิดมลพิษในอากาศซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพพี่น้องชาวไทยโดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานรับผิด ชอบหลักและมีผู้ว่าฯ ทั้ง ๗๗ จังหวัด มีอำนาจรับผิดชอบในเขตจังหวัดของตัวเอง“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าจุดสำคัญของ ก.ม.ฉบับนี้คือ กำหนด “หลักเกณฑ์” การก่อมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนครบวงจรผู้ใดกระทำโดยประมาทปล่อยให้มลพิษ ฝุ่นพิษ ควันพิษแพร่กระจายต้องมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปีและถูกปรับวันละ ๑ หมื่นบาทจนกว่าจะหยุดการกระทำผู้ใดเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ก่อให้เกิดมลพิษแพร่กระจายต่อสุขภาพอนามัยประชาชนอย่างร้ายแรงหรือสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของรัฐหรือสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนมีโทษหนักจำคุก ๕ ปี ปรับอีกห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ“แม่ลูกจันทร์” หวังว่า พระราชบัญญัติอากาศสะอาดจะช่วยฟอกคุณภาพอากาศในบ้านเราให้ดีขึ้นบ้างพอสมควรแต่ “จุดอ่อน” ของ กม.ฉบับนี้อยู่ตรงที่ใช้บังคับเฉพาะในเขตประเทศไทยส่วนควันพิษ ฝุ่นพิษจากไฟป่าหรือควันพิษ ฝุ่นพิษจากการเผาพื้นที่เกษตรในประเทศเพื่อนบ้านแล้วแพร่กระจายเข้ามากระจุกในประเทศไทยกฎหมายอากาศสะอาดไปยุ่ง อะไรไม่ได้เลยเพราะคนทำผิดไม่ใช่พลเมืองไทยและดันอยู่นอกอาณาเขตประเทศไทยกฎหมายเอื้อมไม่ถึงว่างั้นเถอะโยม.”แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม