Thursday, 19 December 2024

"โพล" ชี้ คนส่วนใหญ่ หวาดกลัวภัยอาชญากรรม "แก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์"

“นิด้าโพล” ชี้ คนส่วนใหญ่ รู้สึกหวาดกลัวภัยอาชญากรรม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ หลอกขายของออนไลน์ ร้อยละ ๓๕.๑๙ ไม่ค่อยเชื่อมั่น การเสนอข่าว การปฏิบัติงานของตำรวจวันที่ ๑๔ ม.ค. ๒๕๖๗ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจในสายตาของประชาชน” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ ๒-๖ มกราคม ๒๕๖๗ จากประชาชนที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน ๑,๓๑๐ หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อองค์กรตำรวจในสายตาของประชาชน การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ ๙๗.๐จากการสำรวจเมื่อถามถึงความรู้สึกหวาดกลัวต่อภัยอาชญากรรมของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๗.๒๕ ระบุว่า ค่อนข้างหวาดกลัว รองลงมา ร้อยละ ๓๓.๐๕ ระบุว่า หวาดกลัวมาก ร้อยละ ๒๐.๙๒ ระบุว่า ไม่ค่อยหวาดกลัว และร้อยละ ๘.๗๘ ระบุว่า หวาดกลัวน้อยด้านประเภทคดีอาชญากรรมที่ประชาชนรู้สึกหวาดกลัวในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๔๑.๙๘ ระบุว่า คดีอาชญากรรมออนไลน์ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ หลอกลวงขายของออนไลน์ รองลงมา ร้อยละ ๒๕.๗๓ ระบุว่า คดียาเสพติด เช่น ซื้อ ขาย หรือเสพยาเสพติด หลอนจากการเสพยา ร้อยละ ๑๕.๓๕ ระบุว่า คดีฆาตกรรมหรือทำร้ายร่างกาย ร้อยละ ๗.๘๖ ระบุว่า คดีฉ้อโกงประชาชน เช่น การหลอกลงทุน การเล่นแชร์ ร้อยละ ๓.๙๗ ระบุว่า คดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ เช่น ลักทรัพย์ ปล้นทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ ร้อยละ ๓.๖๖ ระบุว่า คดีความผิดเกี่ยวกับเพศ เช่น ข่มขืน อนาจาร และร้อยละ ๑.๔๕ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบส่วนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการนำเสนอข่าว หรือการแถลงข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๕.๑๙ ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ ๓๔.๘๑ ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ ๑๘.๔๐ ระบุว่า เชื่อมั่นน้อย ร้อยละ ๑๐.๖๙ ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ ๐.๙๑ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบด้านสายงานของตำรวจที่ประชาชนชื่นชอบ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๒๘.๗๘ ระบุว่า ด้านการสืบสวนอาชญากรรม เช่น ฝ่ายสืบสวน นอกเครื่องแบบ เสาะหาพยานหลักฐาน จับกุมคนร้าย รองลงมา ร้อยละ ๒๗.๔๘ ระบุว่า ด้านการป้องกันและปราบปราม เช่น สายตรวจ ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ ฝากบ้านไว้กับตำรวจ ร้อยละ ๒๑.๕๓ ระบุว่า ด้านการจัดการจราจร ร้อยละ ๘.๗๐ ระบุว่า ด้านการสอบสวน เช่น รับแจ้งความ รับแจ้งเอกสาร อำนวยความเป็นธรรมในการดำเนินคดี ร้อยละ ๑.๘๓ ระบุว่า ไม่ชื่นชอบการปฏิบัติงานของตำรวจในสายงานใดเลย และร้อยละ ๑๑.๖๘ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบเมื่อถามถึงการใช้บริการบนสถานีตำรวจของประชาชนในรอบ ๑ ปี พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๘๒.๐๖ ระบุว่า ไม่เคยใช้บริการ ขณะที่ร้อยละ ๑๗.๙๔ ระบุว่า เคยใช้บริการ ซึ่งตัวอย่างที่ระบุว่า เคยใช้บริการ (จำนวน ๒๓๕ หน่วยตัวอย่าง) ร้อยละ ๔๒.๑๓ ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ ๒๑.๗๐ ระบุว่า พอใจมาก ร้อยละ ๒๐.๐๐ ระบุว่า พอใจน้อย และร้อยละ ๑๖.๑๗ ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจท้ายที่สุดเมื่อถามถึงลักษณะตำรวจที่ดีในมุมมองของประชาชน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๑.๑๔ ระบุว่า มีคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โปร่งใส ตรวจสอบได้ รองลงมา ร้อยละ ๒๕.๒๗ ระบุว่า ทำงานรวดเร็ว เสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ร้อยละ ๑๘.๐๙ ระบุว่า การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ในการให้บริการประชาชน ร้อยละ ๑๔.๐๔ ระบุว่า บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ร้อยละ ๕.๕๐ ระบุว่า สามารถควบคุมอารมณ์และการแก้ไขสถานการณ์ได้ดี ร้อยละ ๓.๓๖ ระบุว่า มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงาน ร้อยละ ๑.๔๕ ระบุว่า มีบุคลิกภาพ มีความเป็นผู้นำ และเป็นแบบอย่างที่ดี และร้อยละ ๑.๑๕ ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบtt tt