Thursday, 19 December 2024

ชุดลาดตระเวน อช.ตาดหมอก ช่วยลูกช้างติดปลักโคลน รอแม่มารับกลับเข้าป่า

16 Jan 2024
117

ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ช่วยลูกช้างติดในปลักโคลน พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รอยต่ออุทยานแห่งชาติตาดหมอก อ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมจัดเวรยามเฝ้าดูจนแม่ช้างและโขลงมารับลูกช้างกลับเข้าป่า วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๗ นายรณรัตน์ ศิริมากร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก เปิดเผยว่า เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา อุทยานแห่งชาติตาดหมอกได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ที่ ตม.๑ โนนมะเกลือ ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนแบบบูรณาการ ตามแผนการลาดตระเวนกลุ่มป่าภูเขียว-น้ำหนาว ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติตาดหมอก อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ได้รับแจ้งจากหน่วยลาดตระเวนว่า ในช่วงเวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. ขณะลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าพรมน้ำใส โป่งบง ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว รอยต่ออุทยานแห่งชาติตาดหมอก ท้องที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กับพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พบลูกช้าง ๑ ตัวจมปลักอยู่ในโคลน และพบแม่ช้างวนเวียนอยู่ใกล้ๆ กัน เจ้าหน้าที่จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์เป็นระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งแม่ช้างได้ถอยห่างออกไป ประเมินสถานการณ์แล้วว่าปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจทำการช่วยเหลือลูกช้าง และพักแรมเพื่อเฝ้าดูโขลงช้างที่วนเวียนอยู่ไม่ไกลกลับมารับลูกช้าง ต่อมาวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๖๗ เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. ได้สังเกตพบว่าได้มีโขลงช้างเข้ามาใกล้บริเวณจุดพักและจุดที่ลูกช้างอยู่ ห่างประมาณ ๑๐๐ เมตร จึงได้รีบถอนกำลังออกจากจุดดังกล่าว เพื่อให้โขลงช้างมารับลูกช้าง เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งโขลงช้างเคลื่อนตัวเข้าป่า มั่นใจว่าแม่ช้างเดินกลับมารับลูก จึงออกลาดตระเวนต่อไป tt ttหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก เปิดเผยอีกว่าในขณะที่พบลูกช้างจมปลักอยู่นั้น ดินโคลนบริเวณโดยรอบเริ่มแห้งแล้ว แสดงว่าลูกช้างตัวดังกล่าวติดอยู่ในบ่อโคลนนานแล้ว และมีท่าทางอิดโรย แต่แม่ช้างก็พยายามช่วย แต่ไม่สามารถจะช่วยลูกช้างได้ ซึ่งตามหลักธรรมชาติของแม่ช้างจะมีอยู่ ๒ กรณี คือหากช่วยไม่ได้ก็จะปล่อยให้ลูกช้างติดอยู่ในบ่อโคลน ซึ่งก็อาจจะตายอยู่ในบ่อโคลน หรือไม่ก็กลายเป็นเหยื่อของสัตว์อื่นในระบบห่วงโซ่อาหาร และหลังจากเจ้าหน้าที่เฝ้าดูอยู่เป็นเวลานาน เมื่อช่วยไม่ได้ แม่ช้างก็ได้เดินตามโขลงออกจากจุดดังกล่าวไป เจ้าหน้าที่เฝ้าดูสักพัก และมั่นใจว่าโขลงช้างเดินออกไปไกลแล้ว จึงได้จัดกำลังเข้าช่วยเหลือโดยให้เจ้าหน้าที่อีกชุดคอยเฝ้าระวังอยู่โดยรอบ เพราะเกรงว่าโขลงช้างจะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นอันตรายแก่ชุดเจ้าหน้าที่ที่กำลังช่วยเหลือลูกช้างอยู่ได้tt tt”หลังจากช่วยเหลือลูกช้างขึ้นมาได้สำเร็จ ก็ได้เฝ้ารอดูว่าโขลงช้างจะกลับมารับลูกช้างหรือไม่ รวมทั้งได้ออกเดินหา ปรากฏว่ารอจนกระทั่งเย็นไม่มีวี่แววของโขลงช้างที่จะมารับลูกเลย ในขณะที่ลูกช้างตัวดังกล่าวก็วิ่งเล่นซุกซนกับเจ้าหน้าที่เหมือนกับเด็กๆ ไม่มีความกลัวเลย เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งแคมป์นอนอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับบ่อโคลน ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะหากโขลงช้างกลับมารับลูกในตอนกลางคืนก็จะยิ่งเป็นอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้จัดเวรยามเพื่อป้องกันอย่างเต็มที่ กระทั่งเช้าก็ยังไม่พบว่ามีโขลงช้างที่จะมารับลูกช้าง จึงได้เตรียมตัวที่จะนำลูกช้างกลับออกมาเพื่อนำไปมอบให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงได้ดูแลอภิบาลต่อไป ในขณะที่กำลังจะเดินทางออกจากจุดดังกล่าวก็ได้ยินเสียงช้างร้อง จึงคาดว่าน่าจะเป็นโขลงของแม่ช้าง จึงได้ถอนกำลังออกมาเฝ้าดูอยู่ห่างๆ รอสักพักก็พบว่ามีโขลงช้างเดินมาที่บริเวณดังกล่าวจริงๆ พร้อมกับมีแม่ช้างเดินแยกตัวจากโขลงมาหาลูกช้าง เมื่อลูกช้างเห็นแม่ช้างก็ได้วิ่งเข้าไปหา จากนั้นแม่ช้างก็ได้เดินพาเข้าโขลงและเดินหายเข้าไปในป่า ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้เฝ้าดูอยู่ตลอดว่าจะเป็นแม่ช้างจริงๆ หรือไม่ เมื่อพบว่าช้างเป็นแม่ลูกกัน จึงได้ออกเดินทางลาดตระเวนตามภารกิจต่อไป”