Thursday, 19 December 2024

ผบ.ทร. เยือนทัพเรือสิงคโปร์ รื้อฟื้นลาดตระเวนร่วม ในช่องแคบมะละกา

16 Jan 2024
103

“บิ๊กดุง” เยือนทัพเรือสิงคโปร์ เข้าพบ ผบ.ทร.-ผบ.ทหารสูงสุด และ รัฐมนตรีว่าการกห.สิงคโปร์ หารือการลาดตระเวนร่วม หลังหยุดช่วงสถานการณ์โควิดฯ พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ร่วมกันดูแลเรือสินค้า เรือประมง ให้ปลอดภัยจากโจรสลัด ในช่องแคบมะละกา เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค. ๖๗ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๑๔-๑๖ ม.ค. ตามคำเชิญของกองทัพเรือสิงคโปร์ โดยเมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปยังกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐสิงคโปร์ ได้ตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ และเยี่ยมคำนับ พลเรือตรี Sean Wat ผู้บัญชาการทหารเรือสิงคโปร์ ต่อมาได้เข้าเยี่ยมคำนับ พลเรือโท Aaron Beng ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสิงคโปร์ และเข้าเยี่ยมคำนับ Dr Ng Eng Hen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามลำดับ โดยการเข้าเยี่ยมคำนับดังกล่าวได้มีการสนทนาหารือข้อราชการ และแลกเปลี่ยนโล่ที่ระลึกระหว่างกันtt tt      สำหรับการเดินทางเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ของผู้บัญชาการทหารเรือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ตลอดจนดำรงความร่วมมือระหว่างไทยและสาธารณรัฐสิงคโปร์ที่มีมาอย่างยาวนาน ทั้งระดับชาติและระดับกองทัพ โดยกองทัพของทั้งสองชาติมีการติดต่อและแลกเปลี่ยนการเยี่ยมเยือนระหว่างกันอยู่เสมอ ในส่วนของกองทัพเรือ ได้มีการฝึกร่วมทางทะเล และการลาดตระเวนร่วมกันในการต่อต้านโจรสลัดในช่องแคบมะละกา ซึ่งที่ผ่านมากองทัพเรือสิงคโปร์ได้ดูแลความปลอดภัยในช่องแคบมะละกาและน่านน้ำโดยรอบ โดยช่องแคบมะละกาถือเป็นช่องทางการเดินเรือที่สำคัญในภูมิภาค ซึ่งเรือสินค้าสัญชาติไทยจำนวนมากใช้เดินทางผ่านเข้าออกในการขนส่งสินค้า และแวะจอดรับการส่งกำลังบำรุงที่ท่าเรือสิงคโปร์อยู่เสมอ tt ttทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้หารือในการเริ่มการลาดตระเวนร่วมระหว่างกองทัพเรือไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ปฏิบัติการร่วมกันในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ โดยกองทัพเรือเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมในการเริ่มต้นการดำเนินการดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้เรือสินค้าและเรือประมงปลอดภัยจากโจรสลัด และเกิดความเชื่อมั่นในการเดินเรือผ่านช่องแคบมะละกา ซึ่งในอนาคตหากเกิดปัญหาโจรสลัดในพื้นที่ดังกล่าว กองทัพเรือก็พร้อมจะร่วมมือต่อไป อีกทั้งยังได้หารือเกี่ยวกับการยกระดับการฝึกระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของกำลังพลกองทัพเรือในด้านยุทธวิธี แบ่งปันความรู้และเพิ่มพูนทักษะด้านปฏิบัติการทางเรือ ตลอดจนการทำงานร่วมกันในการเผชิญกับความท้าทายด้านความมั่นคงทางทะเลของทั้งสองประเทศ        นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้ไปเยือนศูนย์บูรณาการข้อมูลข่าวสารทางทะเล (Information Fusion Centre: IFC) เพื่อฟังบรรยายสรุปและหารือถึงการประสานความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางทะเลระหว่าง ศรชล. กับหน่วยงานทางทะเลของสิงคโปร์ ที่กำลังจะมีมากขึ้นในอนาคต ให้มีความสะดวก รวดเร็ว เพื่อให้การปฏิบัติงานร่วมกันมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นtt tttt tt