“โรงพยาบาลราชวิถี” เปิดความสำเร็จในการปลูกถ่าย ๒ อวัยวะ โดยได้ทำการปลูกถ่ายตับพร้อมไต สำเร็จในผู้ป่วยรายเดียว ถือเป็นรายแรกของโรงพยาบาลใน “กรมการแพทย์”วันที่ ๑๗ ม.ค. ๒๕๖๗ นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะอวัยวะล้มเหลว ได้แก่ หัวใจ, ปอด หรือตับ มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตสูงมาก บางรายจำเป็นต้องรักษาตัวในหอผู้ป่วย ICU ซึ่งการปลูกถ่ายหัวใจ ปอด หรือตับ อาจเป็นทางรอดเดียว สำหรับผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายการปลูกถ่ายไตจะช่วยให้อัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น ภาวะแทรกซ้อนต่ำกว่าการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมหรือล้างไตทางช่องท้อง และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยกลับมาใกล้เคียงประชากรปกติมากที่สุดสำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะที่ซับซ้อนมากกว่า ๑ อวัยวะพร้อมกันให้แก่ผู้ป่วยหนึ่งราย จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างทีมสหสาขาในการเตรียมผู้ป่วยก่อนรับอวัยวะ ทีมช่วยผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลานานกว่า ๘-๑๐ ชั่วโมง และทีมดูแลหลังผ่าตัดเพื่อให้อวัยวะปลูกถ่ายทำงานได้ดีที่สุดและป้องการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งต้องตรวจติดตามไปตลอดชีวิตของผู้ป่วยในระยะยาวนายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลราชวิถีได้เริ่มดำเนินการปลูกถ่ายอวัยวะมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นโรงพยาบาลแรกในประเทศไทยที่มีการผ่าตัดปลูกถ่ายมากกว่า ๑ อวัยวะตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๒ ซึ่งได้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจและปอดพร้อมกันเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย และดำเนินการปลูกถ่ายหัวใจ ตับ และไตมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะแล้ว จำนวน ๔๗๑ ราย แบ่งเป็น การผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ จำนวน ๕๖ ราย การผ่าตัดปลูกถ่ายไต จำนวน ๓๗๓ ราย และการผ่าตัดปลูกถ่ายตับจำนวน ๔๒ รายทางด้าน นายแพทย์วรพจน์ ชุณหคล้าย ประธานศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๗ ทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้ทำการผ่าตัดปลูกถ่าย ๒ อวัยวะคือตับพร้อมไต ในผู้ป่วยหญิงอายุ ๕๔ ปี ผู้ป่วยลงทะเบียนรอรับอวัยวะตั้งแต่เดือน กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖ จนได้รับการแจ้งจากพยาบาลผู้ประสานงานการปลูกถ่ายอวัยวะว่า มีผู้บริจาคอวัยวะที่มีความเข้ากันได้ ทีมแพทย์จึงได้ทำการผ่าตัดนำตับและไตบางส่วนออกและปลูกถ่ายตับและไตให้กับผู้ป่วยใหม่ ซึ่งถือเป็นรายแรกของโรงพยาบาลในกรมการแพทย์ ทั้งนี้ ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดมากกว่า ๑๒ ชั่วโมง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีระหว่าง ทีมผ่าตัดนำอวัยวะออก นำโดย พญ.วิภาวี ทีมปลูกถ่ายตับ นำโดย นพ.สมบูรณ์ นพ.สอาด นพ.ภาสุ นพ.กิตติพงศ์ ทีมผ่าตัดปลูกถ่ายไต นำโดย นพ.วรพจน์ นพ.ณัฐพงศ์ นพ.ชววรรธน์ ทีมแพทย์อายุรกรรมทางเดินอาหาร นำโดย นพ.เฉลิมรัฐ และทีมแพทย์อายุรกรรมโรคไต นำโดย พญ.กรทิพย์ รวมทั้ง ทีมพยาบาลผู้ประสานงานการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะโรงพยาบาลราชวิถี เจ้าหน้าที่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และที่สำคัญที่สุด คือ ผู้บริจาคอวัยวะและครอบครัวที่ร่วมสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นและเป็นการสร้างประโยชน์อย่างสูงสุด อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นการผ่าตัด ผู้ป่วยได้เข้ารับการรักษาตัวต่อที่หอผู้ป่วย ICU ศัลยกรรม เพื่อพักฟื้นและเคลื่อนย้ายไปยังหอผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ โดยเบื้องต้นอวัยวะที่ได้รับการปลูกถ่ายทำงานได้ดี ในการนี้ โรงพยาบาลราชวิถีขอเชิญชวนร่วมแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะเพื่อมอบให้แก่เพื่อนมนุษย์ โดยสามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ ชั้น ๙ อาคารทศมินทราธิราช โรงพยาบาลราชวิถี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐๒ ๒๐๖ ๒๙๐๐ ต่อ ๑๐๙๘.
"กรมการแพทย์" เปิดความสำเร็จในการปลูกถ่าย ๒ อวัยวะ ในผู้ป่วยรายเดียว
Related posts