ชุดสืบนครบาลนำหมายค้น ทลายแหล่งดัดแปลงแบลงก์กันให้ยิงกระสุนจริงใน จ.สระบุรี ได้ผู้ต้องหา ๒ สามีภรรยาพร้อมของกลางแบลงก์กัน ๗ กระบอก กระสุนกว่า ๖๐๐ นัด และอื่นๆนับพันชิ้น เผยตำรวจพบเบาะแสจากการขายทางกลุ่มปิดในโลกโซเชียล ถือเป็น ๑ ในต้นตอสำคัญในการใช้ปืนก่อเหตุอาชญากรรม ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพทำมานานกว่า ๖ เดือน เรียนรู้วิธีดัดแปลงจากยูทูบ มีรายได้เดือนละหลักแสนสืบนครบาลทลายแหล่งดัดแปลงแบลงก์กันส่งขายทางโลกโซเชียล เปิดเผยเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๖ ม.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ทศรัศมิ์ กิติธารา สว.กก. วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ ๔ และ ๕ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมจับกุมนายวิมล มาปิน อายุ ๓๙ ปี และ น.ส.จันทนา กิมง่วนสง อายุ ๓๗ ปี ภรรยา ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตสืบเนื่องจากชุดลาดตระเวนออน์ไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พบเบาะแสบุคคลมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายปืน เครื่องกระสุนปืน ปืนแบลงก์กันดัดแปลงชนิดต่างๆให้ยิงกระสุนขนาดต่างๆได้ผ่านทางกลุ่มปิดในโลกโซเชียล รวมทั้งส่งปืนให้ลูกค้าทางพัสดุ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๕ ม.ค. ชุดจับกุมนำหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ ๑๐/๒๖ หมู่ ๗ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จับกุมนายวิมล มาปิน พร้อมของกลางแบลงก์กัน ดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนปืนจริง ๕ กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆรวม ๕๕๗ นัด แมกกาซีน ๑๑ อัน ลำกล้องปืนไม่ทราบขนาด ๔ อัน โทรศัพท์มือถือ ๒ เครื่อง อุปกรณ์ดัดแปลงแบลงก์กันชนิดต่างๆให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ รวมทั้งหมด ๔๐ รายการ จำนวน ๗๖๒ ชิ้น ขณะที่ตำรวจอีกชุดนำหมายค้นศาลจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ ๑๓๓/๓ หมู่ ๗ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จับกุม น.ส.จันทนา กิมง่วนสง พร้อมของกลางปืนยาวและปืนสั้นไทยประดิษฐ์อย่างละ ๑ กระบอก แมกกาซีน ๘ อัน อุปกรณ์เก็บเสียง ๑ อัน ลำกล้องดัดแปลง ๔ อัน กระสุนปืนขนาดต่างๆ ๖๖ นัด อุปกรณ์ดัดแปลงอาวุธปืนอื่นๆรวม ๑๖ รายการ จำนวน ๓๐๐ ชิ้นสอบสวนนายวิมลทราบว่า เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เคยทำงานรับเหมาก่อสร้าง พนักงานโรงงานเกี่ยวกับเหล็ก มีประสบการณ์เกี่ยวกับการอ๊อก เชื่อม กลึงเหล็ก ประมาณต้นปี ๖๖ มีปัญหาสุขภาพทั้งสายตาและโรคเบาหวานจึงลาออกจากงาน ก่อนหน้านั้นมีความสนใจเกี่ยวกับการทำปืนดัดแปลงจากแบลงก์กัน ศึกษาวิธีการจากยูทูบ สามารถทำได้ดีจนสามารถยิงกระสุนจริงได้ จึงหันมาทำเป็นอาชีพหลัก เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการ นอกจากนี้ยังทำห้องไว้สำหรับผลิต ดัดแปลงแบลงก์กันให้ยิงกระสุนจริงได้ ที่บริเวณหลังบ้านในพื้นที่หมู่ ๗ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยดัดแปลงห้องน้ำเก่าของบ้านที่ไม่ได้ใช้งานแล้วมาเป็นโรงงานผลิต ส่งขายให้ลูกค้าทางออนไลน์มานานกว่า ๖ เดือน ในราคากระบอกละ ๑๖,๐๐๐ บาท กำไรเฉลี่ยกระบอกละ ๘,๐๐๐ บาท ในส่วนลำกล้องปืนและโม่ปืนดัดแปลง ขายชิ้นละ ๑,๕๐๐-๒,๐๐๐ บาท รวมรายได้เดือนละกว่า ๑๒๐,๐๐๐ บาท เงินที่ได้มานำมาใช้จ่ายในครอบครัวและนำไปให้ น.ส.จันทนา ผู้เป็นภรรยาลงทุนขายลูกชิ้นหมาล่าในพื้นที่ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.กองบัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวว่า ปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่นำปืนไปก่อเหตุประทุษร้ายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินในลักษณะอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายมีเพิ่มมากขึ้น ตำรวจพยายามสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุในคดีต่างๆส่วนใหญ่ซื้อปืนและเครื่องกระสุนปืนมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ กระทั่งชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. แกะรอยจนพบเบาะแสผู้ต้องหาสามี-ภรรยาคู่นี้ ถือเป็นสองตัวการสำคัญต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมในสังคม เบื้องต้นคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ดำเนินคดีอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
บุกทลายโกดังโรงงานแบลงก์กัน ทำเป็นปืนจริง รวบทั้งผัว-เมีย ลงขายเว็บไซต์
Related posts