“ตู่” คนสนิท สส.นนทบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล เข้าพบตำรวจ หลังยกพวกรุมยำผู้ช่วย สส.นนทบุรี เขต ๒ พรรคเดียวกันกะโหลกร้าว เจ้าตัวอยากจะขอโทษคู่กรณี อ้างตบไปแค่ ๒ ที ก่อนถูกแยกตัวออกจากงาน ส่วน “อนุสรณ์” เข้าแจงเหตุในฐานะพยาน ยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค ขณะที่ผู้การนนท์เผยผู้ก่อเหตุและผู้บาดเจ็บมีเรื่องบาดหมางกันมานาน แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายส่วนสาหัสหรือไม่ต้องรอผลตรวจแพทย์จากกรณีนายกิตติภัทร หรือเบน สุริยจันทร์ อายุ ๔๔ ปี ผู้ช่วย สส.ของนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต ๒ พรรคก้าวไกล ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์งานวันเด็ก ภายในวัดโพธิ์เผือก ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ถูกนายปริญญา หรือตู่ เล็กกมล ประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก คนสนิทของนายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล ยกพวกมาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ กะโหลกร้าว อาการสาหัสเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรีความคืบหน้าเมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๑๗ ม.ค. นายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร สส.นนทบุรี เขต ๓ พรรคก้าวไกล เดินทางมา สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อเข้าพบกับ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก. พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย เพื่อให้ปากคำในคดีดังกล่าว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ส่วนตัวไม่ได้หนักใจ อะไร ทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยแถลงไว้ก่อนหน้านี้แล้วต่อมาเวลา ๑๐.๔๕ น. นายปริญญา หรือตู่ เล็กกมล คนสนิทนายอนุสรณ์ สส.ก้าวไกล เขต ๓ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายนายกิตติภัทร หรือเบน สุริยจันทร์ นายปริญญามีสีหน้าเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ นายปริญญาบอกว่า “อยากจะขอโทษคนเจ็บ” ก่อนเดินเข้าไปพบตำรวจภายหลังจากนายอนุสรณ์ แก้ววิเชียร เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในฐานะพยานในที่เกิดเหตุ นานกว่า ๓๐ นาที เปิดเผยว่า ตำรวจสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเหมือนกับที่ออกแถลงการณ์ไปแล้ว ส่วนกับนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.นนทบุรี เขต ๒ พรรคก้าวไกล ยังไม่ได้คุยกันเพราะตนเดินทางไปประชุมที่ จ.ตาก ไม่สบายใจที่มีข่าวออกไปว่ามีความขัดแย้งกัน ในพรรคก้าวไกลมีกฎมีระเบียบมีข้อบังคับ เรื่องความเห็นต่างมีได้เสมออยู่แล้ว ไม่แน่ใจทำไมออกไปว่าเป็นความขัดแย้ง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรค เนื้อหาของคดีเป็นไปตามที่แถลงไม่อยากให้ดึงพรรคมาเกี่ยวข้อง ไม่มีอะไรในพรรคทุกคนเท่ากัน ความเห็นในการทำงาน มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยหรือเห็นต่าง ตนเป็นบุคคลสาธารณะถูกวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบได้ แต่พรรคเป็นนิติบุคคล ข้อเท็จจริงยังไม่ได้ฟังความทั้งสองด้าน ไม่อยากให้กระทบไปถึงพรรคขณะที่ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวว่า นายปริญญา ประธานชุมชนวัดโพธิ์เผือก เดินทางมาพบตำรวจเพื่อแสดงเจตนาบริสุทธิ์ และให้การแล้วในสิ่งที่มีปัญหาเรื่องส่วนตัวกับผู้บาดเจ็บ วันนั้นอาจพูดไม่ถูกหูกันเป็นเหตุทำร้ายร่างกาย นายปริญญาใช้มือตบคู่กรณีไป ๒ ครั้ง จากนั้นโดนแยกตัวออกไปจากงาน เพราะเกรงว่าจะมีเหตุบานปลาย เท่าที่ฟังจากนายปริญญามีผู้ก่อเหตุประมาณ ๕-๖ คน หลังจากนี้จะเข้ามอบตัวทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเป็นคนยืนดูและช่วยห้ามพล.ต.ต.ปรารถนากล่าวอีกว่า ส่วนที่มีคนไปรุมผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมหลังจากแยกตัวนายปริญญาออกไป เรื่องนี้นายปริญญาตอบไม่ได้เพราะโดนแยกตัวออกไปแล้ว เหตุการณ์ต่อเนื่องคืออะไร เพราะหลังจากแยกตัวไปใช้เวลานานพอสมควรมีเหตุการณ์เกิดขึ้นตรงนั้นอีก จะต้องสอบพยานที่เกิดเหตุว่าหลังจากที่โดนแยกไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุได้รับคำสั่งหรือไม่นั้น เท่าที่ดูไม่น่าจะมี แต่ยืนยันไม่ได้ นายปริญญามีปัญหาส่วนตัวคู่กรณียืดเยื้อมาพอสมควร แต่ไม่ได้ให้การว่าเป็นปัญหาเรื่องอะไร ในเบื้องต้นแจ้งข้อหานายปริญญาทำร้ายร่างกาย ส่วนจะสาหัสหรือไม่ต้องรอผลแพทย์ยืนยันอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
