Thursday, 19 December 2024

“อินโดนีเซีย” ๒๐๒๔ “วันนี้ วันนั้น” ต่างกันลิบ

ผมกลับมาจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือที่ผู้สื่อข่าวกีฬาบ้านเรามักเรียกว่า “ดินแดนอิเหนา” เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ตามคำเชิญของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า แบงก์บัวหลวง ของประเทศไทยเราไปซื้อกิจการของธนาคาร Permata Bank ซึ่งเป็นธนาคารขนาดกลางๆ อันดับประมาณที่ ๑๒ ของดินแดนอิเหนา เมื่อปลายปี ๒๕๖๒ โดยเข้าถือหุ้นประมาณ ๘๙ เปอร์เซ็นต์ ใน พ.ศ.ดังกล่าว และเริ่มต้นเข้าบริหารจัดการหลังจากนั้นมาจนถึงบัดนี้เนื่องจากผมเป็นนักเขียนคนหนึ่งที่เคยตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดแบงก์บัวหลวงจึงต้องไปซื้อแบงก์อิเหนาแบงก์นี้? และคุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ก็ได้ตอบคำถามและชี้แจงถึงเหตุผลว่า “ทำไม” ท่านจึงต้องซื้อโดยให้สัมภาษณ์ผมไว้อย่างละเอียดในห้วงเวลาดังกล่าว และผมก็นำมาเขียนต่อรายงานท่านผู้อ่านในคอลัมน์นี้ถึง ๒ วันติดๆกันบัดนี้การดำเนินงานของ Permata Bank ที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้นใหญ่ได้ผ่านไประยะหนึ่ง ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ล่าสุดก็ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ ๘ ของอินโดนีเซียเป็นที่เรียบร้อยคุณชาติศิริจึงติดต่อมาที่ผมและทีมของ วารสารการเงินการธนาคาร ให้ไปดูกิจการของธนาคารแห่งนี้ว่า ณ บัดนี้กิจการของเพอร์มาตา แบงก์ เป็นอย่างไรบ้าง? และตอบเหตุผลว่า “ทำไมต้องซื้อ” ของคุณชาติศิริได้มากน้อยเพียงใด?ทั้งหมดนี้ก็คือสาเหตุหลักของการเดินทางไปดินแดนอิเหนาของผมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นเวลา ๕ วัน กับ ๔ คืน โดยตะลอนอยู่ใน จาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ๒ วัน จากนั้นก็ไปดูธนาคารระดับสาขาภูมิภาค ที่ ยอกยาการ์ตา อีก ๑ วัน และ บาหลี อีก ๒ วันไม่เพียงแต่จะได้ความรู้ที่เกี่ยวกับกิจการของ เพอร์มาตา แบงก์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมเท่านั้น ยังได้รับความรู้ด้านภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันของอินโดนีเซีย ผ่านนักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์แห่งนี้และได้เห็นด้วยตาตนเองกับความเจริญเติบโตในหลายๆพื้นที่เป็นความเจริญที่ผมอดมิได้ที่จะต้องอุทานออกมาด้วยความทึ่งและถึงขั้นต้องใช้สำนวนคำว่า “อินโดนีเซีย…วันนี้…วันนั้นต่างกันลิบลับ” อย่างที่ผมพาดหัวคอลัมน์ไว้ว่ากันว่าความเจริญเติบโตทั้งหมดนี้มาจากความสามารถและการบริหารประเทศอย่างทุ่มเทของท่านประธานาธิบดี โจโก วิโดโด หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า “โจโกวี่” นั่นเองแต่คำถามที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ ประธานาธิบดี โจโกวี่ จะครบเทอม ๒ สมัย ๑๐ ปี ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว…และจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีท่านใหม่ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ หรือ “วันวาเลนไทน์” ที่จะถึงอินโดนีเซียจะต้องมี “คนใหม่” มาเป็น “ผู้นำ” อย่างแน่นอนตามรัฐธรรมนูญที่ขีดเส้นไว้เช่นนั้น…จึงเกิดคำถามขึ้นว่าท่านผู้นำจะเป็นใคร? จะเก่งหรือมีความสามารถแบบ โจโก วิโดโด หรือไม่? และจะสานต่อนโยบายของท่านมากน้อยเพียงไร?เนื่องจากช่วงเวลาที่ผมไปอินโดนีเซียครั้งนี้อยู่ในโค้งเกือบสุดท้ายของการเลือกตั้งพอดิบพอดี จึงได้เห็นบรรยากาศได้เห็นธงทิวและป้ายหาเสียงในทุกแห่งหนของประเทศ โดยเฉพาะในเขตภูมิภาคที่ผมมีโอกาสแวะผ่านไปตามหมู่บ้านต่างๆด้วยนอกนั้นก็เป็นของแถมจากการมีโอกาสไปสักการะวัดในพุทธศาสนานิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันได้แก่ “โบโรบูดูร์” ออกเสียงในแบบอินโดนีเซียหรือ “บุโรพุทโธ” หรือ “บรมพุทโธ” ตามการออกเสียงของคนไทยทั่วๆไปที่มีพระพุทธรูปถึง ๕๐๔ องค์มาด้วยรวมทั้งยังมีโอกาสแวะไปไหว้พระ วิษณุ ทรง “การูดา” หรือ “ทรงครุฑ” ที่สวนวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ GWK ของบาหลีที่เพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปีมานี่เอง…ด้วยความตื่นตาตื่นใจก็คงจะทยอยเขียนสู่กันอ่านทั้งในคอลัมน์ “เหะหะพาที” และ “ซูมซอกแซก” ติดต่อกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบมินิซีรีส์ชุดนี้อีกเช่นเคย (หรือจนกว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่ๆทางการเมืองเกิดขึ้นแฮ่ม)เริ่มด้วยอะไรดีเอ่ย? เอาเรื่องเศรษฐกิจอินโดนีเซียก็แล้วกันนะครับ ตั้งแต่ฉบับพรุ่งนี้เป็นต้นไป ท่านที่สนใจโปรดอย่าลืมติดตาม.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม