Thursday, 19 December 2024

วิเคราะห์การเมือง : แผลเก่าเร้าแรงต้าน

ปรากฏการณ์ติดเบรกเรือธงรัฐบาล ต้านนโยบายโคตรมหาประชานิยม ทั้งโครงการอัดฉีดเติมเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ตั้งแท่นขวางเมกะโปรเจกต์แลนด์บริดจ์ ไปจนกระทั่งกระตุกแรงๆ แผนดันซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติส่วนหนึ่งสะท้อนภาพ “พลังอำนาจประเทศไทย” ยังไม่นิ่งวันนี้รัฐบาลเพื่อไทย แม้จะมีองค์ประกอบจากการพลิกขั้วย้ายข้าง แต่สภาพการณ์ที่แท้จริง ก็ยังไม่ถึงขั้นสลายขั้ว ไม่ละลายรวมเป็นเนื้อเดียวแม้แต่แนวร่วมกองเชียร์ข้างเวทีก็ยังไม่หายจุก อึ้งรับประทานกันมาพักใหญ่เมื่อที่ผ่านมาเปิดศึกฟัดเดือด จองล้างจองผลาญ อยู่ในวังวนของสงครามอำนาจกันมา ๒ ทศวรรษ จู่ๆเกิดสัญญาณเป็นไฟต์บังคับสูตรพิสดาร เป้าหมายเพื่อกัน “ศัตรูร่วม” ตัวใหม่ที่มาแรงให้อยู่นอกวงคนจากอำนาจต่างขั้วในรัฐบาลวันนี้เลยตกอยู่ในสภาพกล้ำกลืนฝืนทนเล็กน้อยแต่นั่นก็ยังพอทำใจ เกาะเกี่ยวในวงบุฟเฟ่ต์กันไปได้เพียงแต่คิวเห็นต่างแบบสุดขั้วสุดข้าง ที่เกิดขึ้นกับนโยบายอัดฉีดประชานิยม ชนิดต้องขุดหาหลักการเหตุผล หลักคิด ข้อมูลวิชาการมาสนับสนุน ยกนิยามความจำเป็น เร่งด่วน ฉุกเฉิน ไปจนกระทั่งตัวเลขเศรษฐกิจ วิกฤติ-ไม่วิกฤติ สัญญาณฟื้นตัว-ซึมยาว ทฤษฎีกบต้ม หรือคางคกร่าเริงอ้างกันชนิดกองเชียร์ข้างเวทีเกาหัว ต่างฝ่ายต่างย้อนแย้ง แถหนุนแนวทางฝ่ายตัวเองกันทั้งสองปีกแน่นอนในแง่หลักเหตุผล หลักคิดนั้นพอรับฟังได้ แต่ดูจากรูปขบวนแนวต้าน ออกโรงร้อนแรงแล้ว ก็ไม่แปลกที่ “รัฐมนตรีหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง แม่ทัพน้อยดิจิทัลวอลเล็ต หายใจแรงในมุมมองของนักการเมืองที่ไม่ใช่ชั้นอนุบาล สวนแรงกลับ แถมฟันธงฟึดฟัดอัดเดือด“เรือธง” รัฐบาล โดน “วางธง” ค้านแถมงานนี้ทีม ป.ป.ช.ถึงขั้นฉีดยาหลอน กระตุกปมเสี่ยงคุกตะรางtt ttจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์แนวต้านที่เริ่มดาหน้าออกโรง นอกจากนักวิชาการ ชนชั้นกลาง ชั้นอีลิต ต่างมีเหตุมีผลสำทับด้วยกองหนุน สว.ฝ่ายต้านระบอบเศรษฐกิจทักษิโณมิกส์ ในมุมบทเรียนจากความเสียหายแผลเก่า โจทก์เก่า ร่วมทัพต้านกันยกแผงแถมมีปัจจัยเร้าแรงต้าน กับสถานะผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ที่กองไฟกำลังก่อให้ลุกโชนนอกจากนี้ ยังมีแนวร่วมมุมกลับ อย่างพรรคก้าวไกล ฝ่ายค้านยังไม่ถอดปลาสเตอร์จากแผลแค้น ออกงานเมื่อไหร่ มาพร้อมชุดข้อมูลแน่น ต้านแบบทรงพลานุภาพมาแบบนี้ก็ประเมินได้ เรือธงคงต้องเบาคันเร่ง ไม่ทันออกจากฝั่งแล้วก็คงไม่แตกต่าง ถ้าประเมินโครงการแลนด์บริดจ์นานาเหตุผล สารพัดข้อมูล หลักการ เปเปอร์ผลการศึกษาหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ แผนทางวิชาการมาซัพพอร์ต “คิวต้าน” ล้วนน่าฟังน่าคิดตามทำให้เซลส์แมนสะดุด “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ที่กำลังเร่ขายเมกะโปรเจกต์กระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงนักลงทุนยักษ์ใหญ่ต่างชาติ ส่งสัญญาณดีมีสัญญาณบวกจากต่างแดน แต่ของจริงสัญญาณป่วนภายในชักแรงฉะนั้นกลับมาคงต้องดูทีท่าผู้นำ จะปรับแผนอย่างไร ใส่เกียร์ถอย หรือขับเคลื่อนเต็มสตีมเช่นเดียวกับโปรเจกต์ซอฟต์พาวเวอร์ ก็มีโอกาสสูงต้องแปลงเป็นมหกรรมซุปเปอร์บิ๊กอีเวนต์ตลอดปี เป็นแค่ “ตัวช่วย” ปั๊มรายได้ประเทศแต่แผนใหญ่ ตั้งสำนักงาน ปั้นโครงการ “โอฟอส” ๑ หมู่บ้าน ๑ ซอฟต์พาวเวอร์ ส่อสะดุดตั้งแต่ตั้งไข่จ่อไม่ได้ยกระดับเป็นตัวหลัก ตัวคูณเศรษฐกิจทั้งหมดทั้งปวงปฏิเสธไม่ได้ว่า หลักคิดแนวคิด เหตุผล ข้อมูลวิชาการที่อยู่ตรงข้าม จนต้องปะทะกันมา ๒๐ กว่าปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้แม้เกมอำนาจในคิวที่ปฏิเสธไม่ได้ ต้องพลิกขั้วย้ายข้าง ขวางศัตรูร่วมเมื่อสั่งถอนคันเร่ง แล้วติดเบรกกะทันหัน ก็ย่อมมีผลข้างเคียงเกิด “แรงเฉื่อย” จากวิกฤติขัดแย้งที่สั่งสมจึงถึงจุดที่ “รัฐบาลนายกฯเศรษฐา” ถ้าจะทรงตัวบริหารเหนือปมขัดแย้ง หรือต้องปรับฟังปรับจูน บาลานซ์ขั้วฝ่าย รับฟังทุกเหตุผล และหาทางชิ่งมุมอับลอยตัวจากเอฟเฟกต์วิกฤติแตกขั้วครั้งเก่าก่อนเพียงแต่ที่สุดจะมีโอกาสแต่งเติม “เรือธง” หรือไม่ หรือต้องยอมเริ่มต้นใหม่ เมื่อปัจจัยหนุนชักแผ่วทำให้ “ภูมิคุ้มกัน” รัฐบาล พร่องไปเยอะเหมือนกัน.ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม