Friday, 20 September 2024

ผลงานสุดสง่างาม

หลังจากแอนิเมชัน “เดอะ บอย แอนด์ เดอะ เฮรัน” (The Boy and the Heron) หรือ “เด็กชายกับนกกระสา” จาก สตูดิโอ จิบลิ ของญี่ปุ่น ได้รับ รางวัลแอนิเมชันยอดเยี่ยมลูกโลกทองคำ ครั้งที่ ๘๑ ไปหมาดๆ ก็ไม่แปลกที่รายได้ทั่วโลกจะพุ่งฉลุยทะลุเป้า ๑๕๐ ล้านดอลลาร์ หรือกว่า ๕,๓๐๐ ล้านบาทจากทั่วโลกไปแล้วในช่วงเวลาที่ “เด็กชายกับนกกระสา” กำลังโกยรายได้ ก็ยังมีหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องที่เดินหน้าอย่างช้าๆ ไปสู่หลักชัย ๑๐๐ ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ ๓,๕๕๐ ล้านบาท นั่นก็คือ “ก็อตซิลลา ไมนัส วัน” (Godzilla Minus One) กำกับโดย ทาคาชิ ยามาซากิ ผู้กำกับมือฉมังอีกคนของวงการหนังญี่ปุ่น“เด็กชายกับนกกระสา” เป็นอีกหนึ่งที่พิสูจน์ถึงความเป็นหนังที่ “ได้ทั้งเงินทั้งกล่อง” ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างโดดเด่นในเชิงบวก ยิ่งตอกย้ำชื่อเสียงของ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้และเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของญี่ปุ่น โดยเป็นผลงานในรอบ ๑๐ ปีของเขา ต่อจากเรื่องที่แล้วคือ “เดอะ วินด์ ไรเซส” (The Wind Rises) ในปี ๒๕๕๖ ซึ่งทำรายได้งามถึง ๑๓๖ ล้านดอลลาร์ หรือราว ๔,๘๐๐ ล้านบาทเรื่องราวใน “เด็กชายกับนกกระสา” ถ้าเล่าอย่างย่นย่อก็คือ ใช้ฉากหลังในช่วงทศวรรษ ๑๙๔๐ เด็กชายมาฮิโตะที่สูญเสียมารดาไปต้องหลบภัยสงครามจากเมืองหลวงมาอยู่ที่คฤหาสน์ใหญ่ในชนบท เด็กชายต้องปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่กับบิดาและแม่เลี้ยงคนใหม่ซึ่งเป็นน้าสาวของตนเอง แวดล้อมด้วยบริวารเป็นชาย-หญิงวัยชรามากมาย เด็กชายเองก็พยายามเยียวยาบาดแผลในใจและความทุกข์ตรมของตน ทว่าวันหนึ่งมีนกกระสานวลพูดได้นำพาเขาไปยังหอคอยร้างที่เป็นมรดกของบรรพบุรุษฝ่ายมารดา เจ้านกหลอกล่อว่ามาฮิโตะจะได้พบกับมารดาของเขาในหอคอย ซึ่งหลังจากเด็กชายได้เดินผ่านเข้าสู่หอคอยก็พบโลกอันอัศจรรย์ สุดพลิกผัน เหนือกาลเวลา เต็มไปด้วยสีสัน เวทมนตร์ ความงดงาม หม่นเศร้า และปรัชญาชีวิตที่แยบยลคมคาย สุดตรึงใจผู้ชมแม้ “เด็กชายกับนกกระสา” จะทำประชาสัมพันธ์และการตลาดน้อยมาก แต่ก็กวาดรายได้ทะลุ ๑๕๐ ล้านดอลลาร์ในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลก กลายเป็นงานจากสตูดิโอจิบลิ ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือและเมื่อบวกกับรายได้ของ “ก็อตซิลลาไมนัส วัน” ก็นับว่าสมกับ “ซอฟต์ พาวเวอร์” อันทรงพลังของแดนอาทิตย์อุทัย.ภัค เศารยะคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม