Thursday, 19 December 2024

“ยุบพรรค” ดาบต่อไป

เหวลึกอย่านึกว่าเหวตื้นว่าด้วยความประมาทคิดว่าเรื่องแค่นี้คงไม่ถึงกับคอขาดบาดตายถ้าโดนคงแค่เพียงคนเดียวแต่ที่ไหนได้…เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ๗ ต่อ ๑ เสียง (เสียงข้างมาก) ให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (สิ้นสุดเฉพาะตัว) เป็นเวลา ๒ ปีจากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ทำให้เข้าไปเกี่ยวกับการบริหารจัดการหุ้น หรือกิจกรรมของห้างหุ้นส่วนเป็นการกระทำต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ม.๑๘๗เนื่องจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าหุ้นของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯซึ่งเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐและนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ พนักงานห้างหุ้นส่วนดังกล่าวแท้จริงยังคงเป็นหุ้นของนายศักดิ์สยามสรุปก็คือนายศักดิ์สยามเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนดังกล่าว แต่ให้นายศุภวัฒน์เป็น “นอมินี” โดยเฉพาะมีการโอนเงินให้นายศุภวัฒน์ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่นอกจากนั้นการที่นายศักดิ์สยามให้การทุกอย่างฟังไม่ขึ้นมีข้อพิรุธต่างๆ แม้กระทั่งการเบิกค่าน้ำมันและไม่เชื่อว่านายศุภวัฒน์จะมีเงินจำนวนมากเช่นนั้นเนื่องจากเป็นแค่พนักงานของบริษัทเป็นการตบตาซ่อนเร้นอำพรางนี่แค่ดาบแรกเท่านั้น!หลังจากฟังคำวินิจฉัยแล้วนายศักดิ์สยามได้ยื่นใบลาออกจาก สส.ปาร์ตี้ลิสต์และตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยประเด็นที่จะต้องติดตามกันต่อไปก็เพราะผลจากการนี้ทำให้ผูกพันไปถึงการดำเนินการต่างๆพ่วงตามมาเนื่องจากเป็นการกระทำของนายศักดิ์สยามอย่างเช่น๑.การแจ้งบัญชีหนี้สินและทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.เป็นเท็จเพราะไม่ได้เปิดเผยถึงการเป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนดังกล่าวเนื่องจากมีรายได้จากการประมูลงานกับรัฐที่มีมูลค่า ๒,๐๐๐ กว่าล้านบาท๒.ประเด็นใหญ่ก็คือนายศุภวัฒน์และห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญฯได้บริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย ๒ ครั้งติดต่อกันโดยที่นายศักดิ์สยามเป็นเลขาธิการพรรคซึ่งรู้ดีว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ยังรับเงินจำนวนนั้นเอาไว้เท่ากับพรรคภูมิใจไทยทำผิดกฎหมายพรรคการเมืองหากพบว่าผิดจริงมีโทษถึง “ยุบพรรค” อันไม่ต่างไปจากพรรคอนาคตใหม่ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ให้พรรคยืมเงินซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่ามีความผิดสั่งให้ “ยุบพรรค” มาแล้วประเด็นนี้เป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องนำเรื่องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยว่ามีความผิดหรือไม่หากผิดก็ต้องยุบพรรคภูมิใจไทย!หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารคงจะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองนี่เป็นดาบต่อไปที่จะต้องเกิดขึ้นเนื่องจากเป็นผลต่อเนื่องจากความผิดของ “ศักดิ์สยาม” ในฐานะเลขาธิการพรรคนั่นแหละคือปัญหาใหญ่ของภูมิใจไทยชาวสีน้ำเงินในฐานะลูกพรรคก็ต้องหาพรรคการเมืองใหม่สังกัด“อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคก็ต้องถูกเว้นวรรคทางการเมืองขณะที่เส้นทางการเมืองกำลังรุ่งโรจน์มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรีได้แต่มาเจองานนี้เข้าก็คงพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแม้เจ้าตัวยังมั่นใจว่าคงไม่มีอะไรบานปลายแต่ด้วยสีหน้าท่าทางแล้วบอกตรงๆหมองไปทันที!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม