ในหนังสือ พระปิดตามหามงคล พยัพ คำพันธุ์ เขียนเรื่อง หลวงปู่ทับ วัดอนงคาราม ว่า ท่านเกิดวันศุกร์ เดือนอ้าย ปีเถาะ พ.ศ.๒๓๗๔ มรณภาพ ๒๙ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๕ สิริอายุ ๙๒ ปี ๕๓ พรรษานับจากวันมรณภาพมาถึงปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้ ก็ ๑๐๒ ปี เรื่องราวของท่าน บวชที่ไหน รํ่าเรียนจากสำนักใด ใครเป็นอุปัชฌาย์ ใครเป็นอาจารย์… ไม่มีบันทึกเป็นหลักฐานเรื่องที่รู้กัน หลวงปู่ทับจำพรรษาอยู่ที่วัดอนงค์ เป็นลูกวัดของสมเด็จพุฒาจารย์ (นวม) ชาวบ้านเรียกหลวงปู่ แสดงว่าท่านเป็นพระไม่มีสมณศักดิ์ เล่าขานกันว่าท่านเป็นพระถือสันโดษ ไม่ฝักใฝ่ในลาภยศสรรเสริญตลอดชีวิตท่านดูจะเป็นเรื่องความพากเพียรแสวงหามนตราอาคมขลัง ในช่วงกระแส “การเล่นแร่แปรธาตุ” ท่านเป็นองค์หนึ่งที่ค้นคว้าจริงจังมากถ้าหลวงปู่จัน วัดโมลี เลื่องชื่อในการสร้างพระปิดตาแร่บางไผ่ เนื้อเหล็กละลายตัว หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หลวงพ่อทัพ วัดทอง ขึ้นชื่อ ทางพระปิดตามหาอุตม์ เนื้อสำริด หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ เด่นทางพระปิดตาเนื้อเมฆพัดหลวงปู่ทับ วัดอนงค์ ก็นับหนึ่งในพระปิดตา เนื้อเมฆสิทธิ์ ที่มีจุดเด่นดูเป็นโลหะเนื้อเขียวระยับรู้กันในแวดวงพระเกจิระดับจอมยุทธ์ ขนาดสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ ระหว่างการแสวงหาวิชาทำพระกริ่ง หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ยังต้องไปขอแลกเปลี่ยนวิชา ทำพระเนื้อเมฆสิทธิ์กับท่านพยัพ คำพันธุ์ บอกว่า หลวงปู่ทับสร้างวัตถุมงคลเนื้อเมฆสิทธิ์ สัญลักษณ์หนึ่งเดียวของท่านมากมาย ลูกอม พระปิดตา และพระพิมพ์อื่นที่ขึ้นชื่อ คือปางซ่อนหาแต่ก็ได้สร้างพระเนื้อดีบุก เนื้อชินตะกั่ว เนื้อผงไว้ด้วย เนื้อนี้พบน้อยมากสำหรับพระปิดตามีพิมพ์ทรงและขนาดที่ไม่เท่ากัน ท่านเททีละองค์ รูปทรงบางองค์ก็ละม้ายคล้ายคลึงกัน บางองค์ก็แตกต่าง บางองค์เทแล้วไม่แต่ง บางองค์เทแล้วแต่งนิ้วมือให้สวยงามมีทั้งพิมพ์หน้าเดียว พิมพ์สองหน้า มีทั้งหลังอูมและหลังเรียบ บางองค์มีจาร บางองค์ก็ไม่มีจารเมื่อหลวงปู่สร้างพระเสร็จ ก็แจกให้ลูกศิษย์ลูกหา ไม่เลือกเจ้าขุนมูลนาย พ่อค้า หรือชาวบ้าน หลายองค์ผู้ที่ได้ก็นำไปเลี่ยมที่ร้านทองหน้าวัด เลี่ยมเกาะขอบ ทองบ้าง เงินบ้าง นากบ้าง เปิดหน้าเปิดหลังให้เนื้อพระสัมผัสร่างกาย พระชุดนี้จึงมีชื่อเรียก “เลี่ยมเดิมจากวัด”พระเนื้อเมฆสิทธิ์ของหลวงปู่ทับ เชื่อกันว่า เสริมดวง เสริมบารมี เสริมราศี ผู้ใดมีเคราะห์ มีทุกข์โศกโรคภัยก็จะมลายหายสิ้นเทียนกี่เหล่านั้ง เขียนไว้ในคอลัมน์ปกิณณกะพระสยาม นิตยสารสยามอมุลเลท ฉบับที่ ๒๕ ปี ๒๕๕๔ ว่า เนื้อเมฆสิทธิ์จะมีลักษณะเปราะ ผิวด้านที่ถูกสัมผัสหรือถูกขัดจะออกขาวอมม่วงเมื่อปล่อยไว้ก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมทองถ้าเนื้อกลับช้า นักเล่นโบราณแนะให้เอาพระแช่น้ำฝน ไม่ช้าเนื้อพระจะคืนสภาพ เมฆสิทธิ์มีหลายสี สีที่นิยมที่สุดคือเขียวอมทอง สีรองลงมา อมแดงเหมือนสีตากุ้งรู้เรื่องพระปิดตาหลวงปู่ทับ วัดอนงค์กันบ้าง หันมาทดสอบวิชาด้วย พระปิดตาองค์แปลกในคอลัมน์…ด้านหน้าเนื้อเขียวสีเมฆพัด ส่วนด้านหลังมองเห็นผิวเมฆพัดถลอก ออกเห็นเป็นสีทองของเนื้อเมฆสิทธิ์ผู้รู้บอกว่าเนื้อเมฆสิทธิ์และเนื้อเมฆพัด ใช้สูตรผสมโลหะใกล้เคียงกัน…คือ โลหะผสมซัดด้วยผงตะไบทองแดงหลอมกับกำมะถัน บางอาจารย์จะผสมปรอท ถ้าผลออกมา เห็นเป็นสีน้ำเงินแกมขาว คือเมฆพัด แต่ถ้าเห็นเป็นสีเขียวอมเหลืองทองคล้ายสีปีกแมลงทับ …ท่านว่าคือเนื้อเมฆสิทธิ์ถ้าสูตรผสมโลหะเป็นเช่นนี้ โอกาสเจอปิดตาหลวงปู่ทับ เป็นสองเนื้อจึงเกิดมีด้วยประการฉะนี้แล!พลายชุมพลคลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์ จาก หิ้งพระ” เพิ่มเติม
Related posts