Sunday, 22 December 2024

พลุคือการเอาเงินไปเผาเล่นบนอากาศ

หลังจากปีใหม่ มีการตามหาหมาแมวที่ตกใจเสียงพลุจนพลัดหลงเป็นร้อยๆ ประกาศในโซเชียลมีเดีย นอกจากนั้น ยังมีภาพสุนัขและแมวที่ตายตามท้องถนนจำนวนไม่น้อย เป็นภาพที่อเนจอนาถที่เกิดจากความสนุกสนานของมนุษย์ โดยที่ลืมนึกว่าสัตว์ได้รับเสียงดังมากกว่ามนุษย์หลายเท่า เสียงของพลุที่มนุษย์ได้ยินว่าดังแล้ว สำหรับสัตว์เป็นเสียงที่ดังยิ่งกว่าระเบิดจนแทบทนไม่ได้ มีอยู่คลิปหนึ่งซึ่งเป็นภาพที่มาจากกล้องวงจรปิด ข้างบ้านฉลองปีใหม่แล้วจุดพลุทำให้สุนัขในบ้านตกใจจนช็อกตาย ปีใหม่แทนที่จะเป็นปีแห่งความสุข กลับเป็นปีใหม่แห่งความโศกเศร้าผ่านปีใหม่มาแล้ว ๒๒ วัน ยังมีการโพสต์ตามหาสุนัขและแมวที่ตกใจเตลิดหนีไปอยู่เต็มโซเชียลมีเดีย ต่างขับรถตระเวนหาแมวหมาที่คาดว่าน่าจะหนีไปซุกอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง สุนัขและแมวที่เคยอยู่ในครอบครัว เมื่อไปเผชิญโลกเป็นสัตว์จรจัด ไม่มีอาหารการกิน ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ ถูกทุบตี พลังงานลบที่ออกจากสัตว์ผู้ซึ่งทุกข์ทรมานแผ่ซ่านออกไปยังกลุ่มคนผู้ผลิตปัจจุบันทุกวันนี้ เรื่องสวัสดิภาพสัตว์มาแรง เรื่องสิทธิสัตว์ก็อยู่ในความสนใจของประชาชนชาวโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามาก มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวยุโรปบางกลุ่มที่ไม่สบายใจในการปฏิบัติต่อสัตว์ ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัด ซึ่งในระยะยาวมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างที่นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งซึ่งต่อต้านการไปเยือนเวียดนามด้วยสาเหตุการกินสุนัขมาแล้วโรงงานผลิตพลุและดอกไม้ไฟระเบิดบ่อย ระเบิดแต่ละทีมีแต่ร่างกายที่แหลกละเอียด พุธ ๑๗ มกราคม ๒๐๒๔ โรงงานผลิตพลุระเบิดในจังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้มีคนตายทันที ๒๓ ราย ย้อนหลังไปเมื่อ ๓๐ พฤษภาคม ๒๐๒๒ โรงงานนี้เคยระเบิดมาครั้งหนึ่งแล้ว มีคนทำงานตายกลายเป็นผีเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังดำเนินงานกันต่อ ผู้อ่านท่านยังจำได้ไหมครับ ๒๙ กรกฎาคม ๒๐๒๓ ก็มีเหตุการณ์โกดังเก็บพลุกว่า ๕ ตัน ระเบิดที่ตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ๑๒ ราย และบาดเจ็บมากกว่า ๑๐๐ รายมาแล้วแม้แต่ประเทศที่เคยนิยมจุดและผลิตพลุอย่างจีน ข้อมูลเมื่อ ค.ศ.๒๐๑๗ มีการห้ามจุดพลุอย่างเด็ดขาดใน ๔๔๔ เมือง แม้ว่าจะมีการต่อต้านจากโรงงานผลิตพลุโดยเขียนลงในเว่ยป๋อว่าเรามีสิทธิในดอกไม้ไฟ ทว่าทางราชการจีนก็ไม่อนุญาต เมื่อ ๒๙ ธันวาคม ๒๐๒๓ มีการอภิปรายที่ร้อนแรงในฝ่ายนิติบัญญัติของจีน ว่าควรจะมีการอนุญาตให้มีการใช้พลุและดอกไม้ไฟในวันตรุษจีนของ ค.ศ.๒๐๒๔ หรือไม่ มีการนำกฎหมายป้องกันมลพิษทางอากาศและข้อบังคับด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยมาใช้บังคับตามเมืองต่างๆ แม้แต่จีน ซึ่งเป็นประเทศที่ใช้พลุและดอกไม้ไฟมานมนานก็ยังเริ่มมีมาตรการออกมาควบคุมการผลิตและการใช้พลุและดอกไม้ไฟหลายคนเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ที่มนุษย์ได้จากการจุดพลุและดอกไม้ไฟว่าประโยชน์ที่แท้จริงคืออะไร ในพลุและดอกไม้ไฟมีทั้งไนเตรต คลอเรต เปอร์คลอเรต กำมะถัน ถ่าน แป้ง สังกะสี ผงคาร์บอเนตหรืออะลูมิเนียม แมกนีเซียม ผงถ่านหรือซัลเฟอร์ ฯลฯ ที่สร้างปัญหามลภาวะ ปัญหาตามมาในโรงพยาบาลก็คือผู้ป่วยที่ได้รับอันตรายจากพลุและดอกไม้ไฟ บางคนมือขาด นิ้วขาด ระคายเคืองตามร่างกาย ผิวหนังพุพอง จำนวนหนึ่งกระจกตาไหม้และสูญเสียการมองเห็น คนที่อยู่ใกล้พลุเข้าโรงพยาบาลด้วยปัญหาเยื่อแก้วหูฉีกขาด และมีจำนวนหนึ่งที่ถูกพลุตกลงศีรษะและบริเวณส่วนสำคัญของร่างกายถึงขนาดเสียชีวิตบางคนอาจจะพูดว่า พลุและดอกไม้ไฟเป็นประโยชน์ทางการท่องเที่ยว มีการอภิปรายกันในหลายประเทศ และบวกลบคูณหารกันแล้ว สรุปตรงกันว่า พลุและดอกไม้ไฟไร้ประโยชน์ มีโทษต่อทั้งมลภาวะ ชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ทั้งคนและสัตว์เสี่ยงบาดเจ็บล้มตายหายนะ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.com คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม