Saturday, 28 September 2024

"พิชิต" ซัด เร่งเสนอแนะ ปมกู้เงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต" เร็วไป ไม่ถูกจังหวะ

นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกฯ บอก คนอ้างเป็น ป.ป.ช. รีบเสนอความเห็นปม “ดิจิทัลวอลเล็ต” มาไม่ถูกจังหวะ ขวางตั้งแต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการอะไร หวั่น เป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน วอน ผู้มีอำนาจเหลียวแลประชาชน วันที่ ๒๒ ม.ค. ๒๕๖๗ นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกฯ ชี้ หลายฝ่ายเร่งเสนอข้อเสนอ ปมกู้เงิน ดิจิทัลวอลเล็ต ๑ หมื่นบาท มาไม่ถูกจังหวะ เร็วไป ไม่เหมาะสม เรื่องยังอยู่ที่คณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณาไม่แล้วเสร็จ ข้อเสนอแนะ ที่มาไม่ถูกจังหวะ”ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเผยแพร่ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวกับโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทผ่าน Digital Wallet โดยมีการกล่าวอ้างว่า เป็นข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อคณะรัฐมนตรีตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๓๒ต่อมา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่มีความเห็นใดๆ เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เพราะต้องรอคณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่ละท่านส่งความเห็นสรุปกลับมาก่อน จะมีมติและส่งความเห็นไปยังรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ร่างเอกสารที่เกี่ยวกับข้อเสนอแนะโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ที่เผยแพร่ออกมานั้น มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตถึงช่วงเวลาความเหมาะสมต่อข้อเสนอแนะ ว่า “ถูกจังหวะ หรือไม่” เพราะโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นหนึ่งในโครงการที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๖ ต่อมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ เห็นชอบในหลักการให้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินฯ เพื่อทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์ และแนวทางการดำเนินโครงการฯ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการฯ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ภายหลังคณะกรรมการนโยบายฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อทำการศึกษา พิจารณา วิเคราะห์การดำเนินโครงการฯ และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการฯ รวมทั้งเสนอแนะนโยบาย วัตถุประสงค์ แนวทาง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการดำเนินโครงการฯ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายฯปัจจุบันโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet อยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายฯ ที่จะพิจารณาแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในการดำเนินโครงการฯ ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะต้องพิจารณาข้อเท็จจริง ความเห็น หรือข้อสังเกตของกรรมการในคณะกรรมการนโยบายฯ รวมทั้งข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบและรอบด้านเสียก่อน ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นไว้ และเมื่อคณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณาแล้วเสร็จ จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง หากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็ยังมีกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ ที่จะดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติกู้เงินต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๓๓ อีกเมื่อร่างพระราชบัญญัติกู้เงินเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ยังมีขั้นตอนที่ฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทยจะได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดต่างๆ ของโครงการฯ ร่วมกันอีกครั้ง หากได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ยังมีกระบวนการตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติกู้เงินจากศาลรัฐธรรมนูญอีกท้ายสุดหาก ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติกู้เงินไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะเข้าสู่การประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย และจะทำให้กระทรวงการคลังก็จะมีอำนาจในการกู้เงินได้ กระบวนการต่างๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นกระบวนการตามกฎหมายอันเป็นกระบวนการตรวจสอบ ตามครรลองในวิถีทางของประชาธิปไตย ที่รัฐบาลได้กระทำบนพื้นฐานโดยสุจริตตามหลักการของรัฐธรรมนูญ ไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหรือแอบแฝงเพื่อหาทางลง ตามที่มีหลายฝ่ายวิจารณ์แต่ประการใด เพราะรัฐบาลเห็นว่าโครงการฯ ดังกล่าวมีความสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสามารถช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมมากกว่า ๕๐ ล้านคน โดยที่ยังมีประชาชนอีกมากมายที่ยังคงเฝ้ารอโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet อยู่ ซึ่งรัฐบาลพยายามที่จะเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ แม้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงการของรัฐบาลที่ภาคส่วนต่างๆ ดำเนินการตรวจสอบอยู่จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยุติ ไม่ควรสมมติฐาน หรือคาดหมายล่วงหน้าในสถานการณ์ที่ไกลเกินกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อปัจจุบันโครงการฯ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายฯ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น ซึ่งยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆเพื่อที่จะกู้เงิน การที่หลายฝ่ายเร่งรีบให้ข้อเสนอแนะต่อโครงการฯ จึงอาจเร็วไปหน่อย ไม่ถูกจังหวะเท่าที่ควร และอาจกลายเป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้แต่วิงวอนผู้มีอำนาจทั้งหลาย โปรดเหลียวตามองดูประชาชน และรอดูจังหวะที่เหมาะสมดีกว่าไหม”