“สว.เสรี” หอบ ๙๘ รายชื่อ ขอยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาล ตาม ม.๑๕๓ ชี้ ไม่ได้หวังล้ม แต่มีเหตุจำเป็นต้องถกในสภา ทั้ง “แจกเงินดิจิทัล” และปม “ทักษิณ” อ้าง สมัย “ประยุทธ์” ยังไม่มีปัญหาใหญ่ กรอบเวลาอภิปราย ๒ วัน วันที่ ๒๒ ม.ค. นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เป็นตัวแทนกลุ่ม สว. นำ ๙๘ รายชื่อ ขอยื่นญัตติเพื่อเปิดอภิปรายรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา ๑๕๓ แห่งรัฐธรรมนูญ ต่อประธานวุฒิสภานายเสรี ยืนยันว่าประเด็นที่จะขอเปิดอภิปรายเป็นประเด็นที่มีประโยชน์กับการบริหารราชการแผ่นดิน และต่อประชาชน ส่วนบางฝ่ายที่มองว่ารัฐบาลเพิ่งบริหารประเทศได้เพียง ๔ เดือน ยืนยันว่าไม่ได้ยื่นญัตติเพื่อจะล้มรัฐบาล หรือทำให้เกิดความเสียหายอะไร แต่เห็นว่าในประเด็นที่จะอภิปราย รัฐบาลควรที่จะต้องเริ่มดำเนินการทำสิ่งที่หาเสียงหรือแถลงนโยบายไว้”แม้จะบอกว่าทำไมเพิ่งมายื่นรัฐบาลนี้ ไม่ใช่รัฐบาลที่แล้ว ก็ต้องเรียนว่ารัฐบาลนี้กับรัฐบาลที่แล้วไม่ได้ต่างกันเท่าไร เพราะพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล ก็เป็นพรรคเดียวกันเสียเป็นส่วนใหญ่ และเราก็ไม่ได้ดูว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็ยื่นตามภารกิจ หน้าที่สำคัญของสมาชิกวุฒิสภาพึงจะต้องทำ” เสรี กล่าว…นายเสรี หวังว่าญัตติที่ยื่นน่าจะมีผลกระทบในเชิงบวกให้รัฐบาลนำไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนในสมัยรัฐบาลประยุทธ์นั้น มองว่า ๓ ปี ก็ใช้แก้ปัญหาโควิด-๑๙ ไปแล้ว อีก ๑ ปี ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรถึงกับต้องยื่นญัตติ แต่มาปัจจุบันนี้เห็นปัญหาเยอะ แม้กระทั่ง ๔ เดือนเอง ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ทำงาน แต่มีประเด็นที่ควรต้องพูดในสภา เพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาส่วนปัญหาสำคัญที่ทำให้จำเป็นต้องยื่นนั้น มีเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง เราน่าจะแก้ปัญหาได้เร็วและดีกว่านี้ แต่ไปเสียเวลาอยู่กับการแจกเงินดิจิทัล ที่ทำได้ยาก มีอุปสรรคมาก เช่นเดียวกับเรื่องกระบวนการยุติธรรม หากรัฐบาลยังเลือกปฏิบัติหาช่องทางเอื้อประโยชน์ จะเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านเมือง ไม่จำเป็นต้องรอนานขณะที่ประเด็นกระบวนการยุติธรรม จำเป็นต้องเปิดอภิปรายในช่วงเวลาก่อนที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษหรือไม่นั้น เสรี ระบุว่า ไม่ได้เน้นตัวบุคคล เน้นที่ตัวหลักการ ไม่ขึ้นอยู่กับเปิดอภิปรายก่อนหรือหลัง สำคัญอยู่ที่จะยึดหลักกระบวนการยุติธรรมให้เป็นจริงได้มากเพียงไร ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่า กฎหมายต้องใช้กับทุกคนเท่าเทียมกันนายเสรี ยังอีกกล่าวว่า ตั้งใจขอกรอบเวลาในการอภิปราย ๒ วัน ส่วนจำนวนผู้อภิปราย อยู่ที่สมาชิกจะแสดงความจำนงชัดเจนแค่ไหน แต่ปัจจุบันนี้ก็มีลงชื่อมาเยอะแล้ว
