Wednesday, 13 November 2024

นายกฯ ขอรอ "สศค." แจง หลังโฆษกรัฐบาล มือลั่น GDP ไทย ๖๖ โตเพียงร้อยละ ๑.๘

นายกฯ ขอ รอ “สศค.” แจง หลังโฆษกรัฐบาลมือลั่น ทำเอกสารหลุด เรื่องปกติ นายกฯ-ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติเห็นต่าง ไม่อยากสร้างวาทกรรมใหม่ “เศรษฐกิจวิกฤติ” ขอใช้คำว่า “เศรษฐกิจไม่ดี” จ่อ คลอดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ หลัง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ต้องชะลอวันที่ ๒๔ ม.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีที่โฆษกรัฐบาลทำเอกสารการประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๖๖ และ ปี ๒๕๖๗ ของกระทรวงการคลัง หลุดในกลุ่มผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ ถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี ๒๕๖๖ เติบโตเพียงร้อยละ ๑.๘ ว่า ต้องรอให้สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. แถลงเป็นทางการก่อน และถึงแม้ตนเองจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ไม่เคยไปขออะไรมาดูก่อน ด้าน สศค. มีอิสระในการทำตัวเลขหมดและต้องให้เกียรติผู้อื่น สศค. ด้วยส่วนจะมีมาตรการอื่นมากระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พิจารณาตลอด และไม่อยากไปสร้างวาทกรรมใหม่ว่า เศรษฐกิจวิกฤติ หรือไม่วิกฤติ ขอใช้คำว่า “เศรษฐกิจไม่ดี” ดีกว่าคำว่าวิกฤติส่วนผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย บอกว่า เศรษฐกิจในประเทศยังไม่วิกฤตินั้น ก็เป็นเรื่องของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติก็ให้พูดไป นายกรัฐมนตรีบอกวิกฤติ แต่ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติบอกไม่วิกฤติ เป็นเรื่องของความเห็นต่าง เป็นธรรมดาของสังคมส่วนตัวเลขอัตราการเติบโตที่ต่ำและความไม่ชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้เกิดความกังวล จะเสนอให้ลดอัตราดอกเบี้ย หรือกระตุ้นด้วยมาตรการอื่นๆ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากเป็นเรื่องลดอัตราดอกเบี้ย ต้องถามแบงก์ชาติ เพราะจะเป็นคนจัดการส่วนเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลคิดตลอดเวลาและมั่นใจว่าจะมีนโยบายที่คลอดออกมาใหม่ ไม่ใช่แค่ดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว ขณะเดียวกันก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลา ทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและอธิบดีในทุกๆ เรื่อง ทั้งการกระตุ้นเรื่องภาษีนายกฯ ยังย้ำว่า แม้จะมีความเห็นต่างกันระหว่างผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน แต่เชื่อ สศค. และแบงก์ชาติก็มีการคุยกันตลอด เพราะเรื่องความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาในการอยู่ร่วมกัน มีอะไรก็ต้องพูดคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ละคนก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำไป นายกรัฐมนตรีก็ต้องหามาตรการมากระตุ้น