ศาลฎีกา รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปมแจกใบส้ม “สุรพล เกียรติไชยากร” กรณีใส่ซองทำบุญให้พระ ๒,๐๐๐ บาท ขณะที่ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยแล้ว เจ้าตัว ระบุ ศาลไม่ได้ให้เหตุผล ต้องรอคำวินิจฉัยวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๗ จากกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.แจกใบส้ม นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร สส.เชียงใหม่ ในช่วงการเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนว่านายสุรพลใส่ซองทำบุญพระสงฆ์ ๒,๐๐๐ บาท เข้าข่ายผิด พระราชบัญญัติเลือกตั้ง สส. มาตรา๗๓ (๒) ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือ สถาบันอื่นใดคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน๒๕๖๕ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำเลยที่ ๑ ชำระเงินจำนวน ๖๔,๑๔๔,๖๘๓.๗๗ บาท พร้อมดอกเบี้ย ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค ๕ ได้อ่านคำพิพากษา แก้เป็นว่าให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงิน ๕๖,๗๙๒,๕๖๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาและจำนวนที่ศาลชั้นต้นกำหนดเช้าวันนี้ (๒๔ มกราคม๖๗) ณ ศาลจังหวัดฮอด อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ โดย ศาลจังหวัดฮอด นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา แต่ศาลฎีกา แจ้งเพียงว่ารับคำร้องของ กกต. แล้ว นายสุรพล กล่าวว่า การเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ กกต.ได้ให้ใบส้มตนเอง โดยขาดความเป็นธรรม แต่เชื่อมั่นว่าศาลยุติธรรมจะคงไว้ซึ่งความยุติธรรม เมื่อศาลรับฎีกาแล้วก็ต้องรอ รอในการพิจารณาเพื่อตัดสินชดใช้ค่าเสียหาย จริงๆ แล้วค่าเสียหายมันไม่คุ้มกับ การที่เราได้ทำงานให้กับประชาชน ๓๐ กว่าปีที่เป็นนักการเมือง ไม่เคยใช้เงินซื้อเสียงเลยเป็นที่ประจักษ์ ศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งได้ยกคำร้อง ศาลชั้นต้นได้ให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหาย และศาลอุทธรณ์ก็ยืนยันตามศาลชั้นต้น จริงๆ แล้วเงินที่ได้มาไม่คุ้มกับเกียรติยศชื่อเสียงที่สะสมความดีมา ๓๐ กว่าปี ทำคุณประโยชน์ให้กับชาวบ้านอย่างเดียว ไม่ได้นึกถึงประโยชน์ของตัวเอง เงินชดเชยที่จะได้รับส่วนหนึ่งจะนำไว้ใช้ส่วนตัวหลังจากที่วางมือทางการเมืองแล้ว อีกส่วนหนึ่งก็จะใช้ทำบุญเพื่อเป็นสาธารณกุศล แต่ตอนนี้ก็ต้องรอไปก่อนจนกว่าศาลฎีกาจะตัดสิน วันนี้ศาลฎีกาแจ้งว่ารับคำร้องของ กกต. ศาลท่านไม่ได้ให้เหตุผลในการรับคำร้องของ กกต. ก็ต้องรอศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาต่อไป
