รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เผยว่าจะเปิดร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับกลุ่มชาวต่างชาติที่ไม่ใช่มุสลิมที่ได้รับการคัดเลือก โดยเป็นร้านแรกที่เปิดในรอบกว่า ๗๐ ปีตามมาตรการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ทางสังคมสำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า จะเปิดร้านในกรุงริยาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับกลุ่มชาวต่างชาติที่ไม่ใช่มุสลิมที่ได้รับการคัดเลือก โดยร้านใหม่นี้จะตั้งอยู่ในย่านการทูตของกรุงริยาด ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่า คาดว่าร้านนี้จะเปิดได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะนับเป็นร้านเหล้าแห่งแรกที่เปิดในซาอุฯ รอบกว่า ๗๐ ปีโดยทางการซาอุฯ ระบุว่า ลูกค้าจะถูกจำกัดไว้เพียงกลุ่มเจ้าหน้าที่ทางการทูต ซึ่งที่ผ่านมามักจะนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบรรจุภัณฑ์ทางการที่ปิดสนิท เรียกว่า “ถุงทางการทูต”เจ้าหน้าที่ทางการซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่าการเปิดร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งนี้จะเป็นการตอบโต้ การค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างผิดกฎหมาย หลังจากซาอุฯ มีกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาตั้งแต่ปี ๒๔๙๕ หลังจากที่โอรสคนหนึ่งของกษัตริย์อับดุลอาซิซ เมาก่อเหตุยิงนักการทูตชาวอังกฤษเสียชีวิตรายงานข่าวระบุว่า ทางการซาอุฯ มีข้อกำหนดสำหรับลูกค้าของร้าน ซึ่งจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าและได้รับอนุมัติจากรัฐบาล นอกจากนี้จะไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๒๑ ปีเข้าไปในร้าน และลูกค้าจะต้องแต่งกายให้เหมาะสม ตลอดเวลาที่อยู่ในร้าน และจะมีการกำหนดจำนวนครั้งที่เข้าใช้บริการในแต่ละเดือน นอกจากนี้ข้อกำหนดยังระบุว่า ลูกค้าจะถูกจำกัดสิทธิสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ที่คนละ ๒๔๐ คะแนนต่อเดือน ซึ่งสุรา ๑ ลิตรมีค่า ๖ แต้ม ไวน์ ๑ ลิตรมีค่า ๓ แต้ม และเบียร์ ๑ ลิตรมีค่าเท่ากับ ๑ แต้ม และยังไม่มีข้อเสนอแนะว่ากลุ่มลูกค้าจะขยายไปยังชาวต่างชาติธรรมดาทั่วไปในประเทศทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายซาอุดีอาระเบียในปัจจุบัน การบริโภคหรือครอบครองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจมีโทษปรับ จำคุก เฆี่ยนในที่สาธารณะ และเนรเทศชาวต่างชาติที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิม ที่มีอายุ ๒๑ ปีขึ้นไปในโรงแรม คลับ และบาร์.
